“พิพัฒน์” จ่อหารือ ผู้ว่าฯ อัศวิน กำหนดเขตพื้นที่ในกทม.ก่อนเปิดท่องเที่ยว

ความคืบหน้าล่าสุด ทางด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ในเช้าวันนี้ ถึงการเตรียมเดินหน้าตามแผนเปิดประเทศใน 120 วัน โดยในวันที่ 1 ต.ค.2564 นี้ มีแผนจะเปิด 5 จังหวัดใหญ่ เพื่อรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และต่างจังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (เปิดพื้นที่บางเขต) , ชลบุรี (อำเภอพัทยา, บางละมุง และสัตหีบ), เพชรบุรี (อำเภอชะอำ), ประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอหัวหิน) และเชียงใหม่ (อำเภอเมือง, แม่ริม, แม่แตง และดอยเต่า)

(แฟ้มภาพ)

ในส่วนของ กทม. เขตที่จะเปิดให้ท่องเที่ยวนั้น ทางพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กทม. จะเป็นผู้กำหนดอีกครั้งในภายหลังภายหลังการหารือร่วมกันในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดเขตบริเวณใจกลางเมือง ที่ไม่ติดกับจังหวัดข้างเคียง เพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทางข้ามไปยังจังหวัดอื่นๆ เช่น นนทบุรี, สมุทรปราการ ซึ่งจังหวัดดังกล่าวยังมียอดจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ถึง 70%

ทั้งนี้ คาดว่าในเขตพื้นที่ กทม. ช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่ม 608 (กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และสตรีตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป) จะได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็ม และคาดการณ์ว่าประชาชนส่วนใหญ่ประมาณ 70% จะได้รับวัคซีนแล้ว อย่างไรก็ดีการเปิดการท่องเที่ยวในพื้นที่กทม. จะมีมาตรการให้นักท่องเที่ยวโหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” เมื่อมีการเดินทางข้ามเขตจะมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นทันที ซึ่งมาตรการนี้ประสบความสำเร็จจากการทดลองในโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์แล้ว

(แฟ้มภาพ)

สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่ภูเก็ตเป็นเวลา 7 วัน สามารถเดินทางมาเที่ยวที่ กทม. ต่อได้ เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้รับการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ทั้งหมด 2 ครั้งแล้ว คือที่สนามบิน และถัดมาในวันที่ 6-7 ส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในกทม. จะต้องได้รับการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ที่สนามบิน และรอผลในห้องพักไม่เกิน 4-6 ชั่วโมง หากผลเป็นลบสามารถเดินทางท่องเที่ยวในพื่นที่ที่กำหนดได้เลย ไม่ต้องกักตัว อย่างไรก็ดีหากมีจำนวนผู้ติดเชื้อในเขตเกิน 200 ราย เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 10 วัน จะมีการพิจารณา หรืออาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม

นายพิพัฒน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างการแก้ปัญหา จากการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์เป็นระยะเวลา 2 เดือนกว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติมีการเรียกร้อง ในกรณีที่ไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างรับประทานอาหารในห้องอาหารได้

ซึ่งใน กทม. ก็จะมีมาตรการนี้เช่นเดียวกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยทำแผนที่อีกรูปแบบหนึ่งขึ้นมา เพื่อระบุจำนวนผู้ติดเชื้อแบบละเอียด ถ้าเขตหรืออำเภอใดเป็นพื้นที่สีขาว หรือสีเขียว จะอนุญาตให้สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้

ในส่วนของจังหวัดชลบุรี ที่ยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อในคลัสเตอร์โรงงาน ซึ่งกระทรวงแรงงาน ได้ขอความร่วมมือให้โรงงานทำโรงพยาบาลสนามในโรงงาน เพื่อให้พนักงานกักตัว และพักอาศัยในโรงงาน หรืออาจมีการเช่าโรงแรม เพื่อให้พนักงานพักอาศัยอยู่ในโรงแรม เมื่อไม่มีการเดินทางก็จะสามารถลดการแพร่กระจายเชื้อได้

“การเปิดให้ท่องเที่ยวในกทม. ได้บางเขตนั้น เนื่องจากกทม. เป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเยือน ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในกทม. จึงน่าจะอยากเข้ามาดูชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในขณะนี้” นายพิพัฒน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าว