โดยคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวานที่ผ่านมา มีกลุ่มบุคคลประมาณ 4-5 คนพร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวจำนวน 4 กระบอกมาปิดล้อมไล่ยิงหมูป่าโทนอายุประมาณ 9 ปี หนักประมาณ 120 กิโลกรัม อาศัยอยู่บริเวณป่าชุมชน ม.4 ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี กระสุนเข้าที่บริเวณระหว่างขาหน้าและต้นคอ 2 แผล วิ่งหนีตายเข้ามาขอความช่วยเหลือจากร้านค้าที่เคยให้อาหาร เจ้าของร้านจึงแจ้ง นายสมชาย รักษ์เดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 แจ้งอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีมาช่วยเหลือ เมื่อกู้ภัยมาถึงได้ปั๊มหัวใจช่วยชีวิตหมูป่าโทน แต่ไม่รอด ตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ต้องนำซากไปฝังในป่าช้า ที่วัดบางบุตร อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เมื่อคืนที่ผ่านมา
11 กันยานยน 2564 พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.พุนพิน สั่งการให้ ร.ต.อ.วุฒิชัย พืชผล รอง สวป.หัวหน้าป้อมหรือจุดบริการประชาชนบ้านลีเล็ดพร้อม ด.ต.สุริยา สุขขี เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ร้านค้า พบว่า กล้องวงจรปิดหลังร้านได้บันทึกภาพขณะที่นายสุทธิพร บุญชู เจ้าของร้านกำลังล้างรถอยู่หลังบ้าน จู่ ๆก็มีหมูป่าที่มีอาการบาดเจ็บวิ่งออกจากสวนปาล์มหลังบ้าน มาหมอบหลบซ่อนอยู่ข้างรถกระบะ ต่อมามีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4-5คนวิ่งตามมาพร้อมใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่หมูป่าทันทีอีก 1 นัด หมูป่าได้วิ่งหลบเข้าไปในร้านค้า กลุ่มชายฉกรรจ์ตามไปอีก แต่ถูกชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้ห้ามปรามไม่ให้ทำร้ายหมูตัวดังกล่าว กลุ่มชายฉกรรจ์แสดงความไม่พอใจแต่ก็ได้ล่าถอยออกไป
ในเบื้องต้นทางตำรวจทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว จะได้ออกหมายเรียกตัวมาดำเนินคดีตาม พรบ.อาวุธปืนต่อไป ส่วนการยิงหมูป่าตายนั้นจะต้องมีเจ้าทุกข์ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุต่อไป
ด้านนายสุทธิพรเจ้าของร้านบอกว่า ตอนเกิดเหตุตกใจกลัวมาก เพราะเขาตามมายิงหมูป่าที่ข้างรถยนต์ของตนเลย ด้วยความตกใจกลัวจะถูกลูกหลงเลยตะโกนสั่งลูกชายให้หลบอยู่แต่ภายในห้อง หลังกลุ่มก่อเหตุล่าถอยไปจึงมาช่วยหมูป่าแต่ก็ไม่รอด
นายสมชาย รักษ์เดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 กล่าวว่า หมูป่าโทนตัวนี้เป็นขวัญใจชุมชนอาศัยอยู่ในป่าที่เป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิ์มานานกว่า 9 ปี เดิมทีเป็นลูกหมูป่าของชาวบ้านที่นำมาเลี้ยงแต่ต่อมาได้หลุดจากคอก เจ้าของหาไม่เจอ แต่พอโตขึ้นจึงออกมาหากินชาวบ้านเห็นจึงมีมติของชุมชนว่าไม่ทำร้ายหรือยิง ปล่อยไว้ให้อยู่คู่กับชุมชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนบ้านห้วยทรัพย์ จึงเป็นสัตว์ที่คุ้นเคยกับชาวบ้าน พอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านทุกคนต่างสะเทือนใจเป็นอย่างมาก สำหรับกลุ่มคนที่มาไล่ยิงหมูป่าเป็นคนนอกพื้นที่ ที่เข้ามาถางป่าแล้วพบหมูป่าจึงรวมตัวมาปิดล้อมไล่ยิง จนหมูป่าวิ่งหนีตายมาขอความช่วยเหลือจากคนที่เคยให้อาหาร
ด้านนายสมศักดิ์ ธาลวัลย์ อดีตผู้ใหญ่บ้านบอกว่าตนสะเทือนใจมาก หากเป็นไปได้อยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษ เพราะทำรุนแรงเกินไป และคิดว่าหากเป็นไปได้อยากจะทำรูปปั้นเป็นอนุสรณ์ให้กับหมูป่าตัวนี้
ภาพ/ข่าว โดย:
สุวรรณี บัณฑิศักดิ์ จ.สุราษฎร์ธานี