10 กันยายน 2564 นายสมพร (นามสมมติ) อายุ 59 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานภาพโฟร์ไฟล์และข้อความแชท เข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังถูกสาวสวยหน้าตาดี ชื่อเล่นว่า “วาว” อายุ 32 ปี เป็นชาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งรู้จักติดต่อกันทางเฟสบุ๊กไม่นาน เข้าไปแฮ็กเฟสบุ๊กแล้วส่งคลิปลามกอนาจารไปให้เพื่อนครู และผู้บริหาร ทำให้อับอายเสื่อมเสียแถมขู่จะเล่นงานทางวินัยด้วย คาดมีจุดประสงค์หวังแบล็กเมล์ครู
โดยครูสมพร เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2564 ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งในโฟร์ไฟล์ เป็นสาวสวยหน้าตาดีได้ทักแชทเข้ามาขอเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊กของตนเองชื่อว่า “Sorn Laaiad” จึงได้ตอบรับเป็นเพื่อนและแชทสนทนากัน กระทั่งหญิงสาวคนดังกล่าวได้ส่งภาพโป๊เปลือยของตัวเองมาให้ดูเพื่อหลอกล่อยั่วยวน จากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็บอกว่าเพิ่งเลิกกับแฟนรู้สึกเหงา ทั้งยังบอกว่าคุณตา เพิ่งเสียชีวิต ต้องเอาโทรศัพท์มือถือไปจำนำในราคา 22,000 บาท เพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย ตนฟังแล้วก็เห็นใจและสงสาร กระทั่งเมื่อวันที่ 8 เม.ย.2564 หญิงสาวคนดังกล่าวก็เดินทางมาหาตนเองที่บุรีรัมย์ ซึ่งตนก็ได้พาไปเที่ยว กินข้าวและเข้าพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ยอมรับว่าวันนั้นได้มีเพศสัมพันธ์กันด้วยความสมัครใจ จากนั้นก็คบหาติดต่อกันโดยตนได้โอนเงินให้กับผู้หญิงคนดังกล่าวในฐานะผู้ชายที่ดูแลผู้หญิง 3 ครั้ง ครั้งแรก 5,000 บาท ครั้งที่สอง 4,200 บาท และครั้งที่สามอีก 4,500 บาท
หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้พบกันเพราะตนก็ต้องทำงาน กระทั่งจู่ ๆ มีเพื่อนครูโทรศัพท์มาบอกว่าตนเองได้ส่งภาพนิ่งและคลิปลามกอนาจารไปยังเพื่อนครูหลายคน รวมถึงผู้บริหารด้วย ซึ่งตนก็ตกใจเพราะไม่เคยส่งข้อความหรือภาพลักษณะดังกล่าวให้ใครเลย เนื่องจากตนเองเป็นครู จึงได้เข้าไปดูในเฟสบุ๊กพอเห็นภาพและข้อความ ก็เชื่อว่าน่าจะถูกหญิงคนดังกล่าวเข้าไปแฮ็กเฟสบุ๊กของตัวเองแล้วเป็นคนส่งภาพลามกอนาจารดังกล่าว เพื่อทำให้ตนเองอับอายเสื่อมเสีย เนื่องจากตนไม่ได้ติดต่อและส่งเงินไปให้ เชื่อว่าน่าจะมีเจตนาแบล็กเมล์ เพราะพอตนเองติดต่อไปก็ถูกขู่จะหาเรื่องเล่นงานทางวินัยตนเองด้วย
จากกรณีที่เกิดขึ้นก็เกรงว่าจะกระทบต่อวิชาชีพของตัวเอง จึงได้เข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าถูกแฮ็กเฟสบุ๊กไม่ได้เป็นคนส่งภาพลามกอนาจารดังกล่าว ก็อยากฝากถึงหญิงคนดังกล่าวด้วยว่า ตนไม่อยากมีเรื่องต้องขึ้นโรงขึ้นศาล แต่หากยังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ก็อาจจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับตนเพราะคิดว่าฝ่ายหญิงจะจริงใจไม่คิดว่าจะทำกันแบบนี้
โดย - สุรชัย พิรักษา