9 กันยายน 2564 นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำภายในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง ขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 27 ล้าน ลบ.ม.ถือว่าเต็มความจุอ่าง โดยทางอ่างฯได้มีการระบายน้ำออกจากอ่างฯ ในอัตรา 17 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือวันละ 1.5 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณปกติในการระบายออกกรณีที่น้ำในอ่างเต็มความจุและต้องพร่องน้ำเพื่อรองรับน้ำใหม่เข้าอ่างฯ ซึ่งหลังจากได้รับงบประมาณมาปรับปรุงแล้ว ลำน้ำลำเชียงไกรสามารถรับการระบายน้ำได้ไม่น้อยกว่า 60 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่ทั้งนี้การระบายน้ำทางโครงการฯ จะคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนท้ายอ่างเป็นหลักก่อน และยังได้นำน้ำไปช่วยเหลือในพื้นที่ที่ฝนทิ้งช่วงและต้องการน้ำอีกกว่าแสนไร่
ส่วนการระบายน้ำขณะนี้ ทางอ่างฯ ได้ระบายน้ำออกทางระบายน้ำชั่วคราวที่ทางโครงการชลประทานนครราชสีมาได้ทำขึ้นทางด้านข้างของอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง เนื่องจากประตูระบายน้ำหลัก (Service Spillway) อยู่ระหว่างปรับปรุงเพื่อยกระดับเก็บกักเพิ่มขึ้น 1.00 ม.หรือมีความจุเก็บกักเพิ่มขึ้นอีก 10 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งการระบายน้ำลงท้ายอ่างฯ ไม่ได้เกิดจากการล้นทะลักข้ามสันทำนบดินเขื่อนแต่อย่างใด
และล่าสุด โครงการชลประทานนครราชสีมา สำนักงานชลประทานที่ 8 ได้ร่วมกับ ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 4 เร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ทั้งหมด 4 เครื่อง ที่บ้านโนนหัวนา ต.กำปัง อ.โนนไทย เพราะเป็นจุดรวมน้ำ ที่มาจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) , ลำวังกะทะ และบึงพุดซา ที่มักจะไหลมารวมกันจำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าวเป็นประจำ จนเกินความสามารถในการระบายน้ำของลำน้ำ ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำไหลล้นคันลำน้ำได้ นอกจากนี้ ยังนำเจ้าหน้าที่ไปติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในลำเชียงไกร ที่ประตูระบายน้ำบ้านบัว ตำบลโนนสูง อำเภอโนนสูง รวมทั้ง จัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องกลและเครื่องสูบน้ำ พร้อมบุคลากรเพื่อเตรียมการป้องกันและเผชิญเหตุกรณีเกิดอุทกภัยในพื้นที่ ตามข้อสั่งการของนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ที่ให้เตรียมพร้อมเผชิญเหตุ ป้องกัน หากเกิดอุทกภัยในจังหวัดนครราชสีมา
โดย - ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ