
ความคืบหน้าคดี ส.ส.รัฐบาล เสียบบัตรแทนกันระหว่างการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระที่ 2 และวาระ 3 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 10 -11 ม.ค. 2563 ซึ่งคดีนี้ ป.ป.ช. ชี้มูลความ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 4 คน ประกอบด้วยจากพรรคภูมิใจไทย 3 คน คือ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง, นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายภูมิศิษฏ์ คงมี ส.ส.พัทลุง และพรรคพลังประชารัฐ 1 คน คือ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.
โดยเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลฎีกามีคำสั่ง รับคำร้องของ ป.ป.ช.ยื่นร้อง น.ส.ธณิกานต์ เรื่องการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และ มีคำสั่งให้ น.ส.ธณิกานต์ หยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.ส. จนกว่าจะมีคำพิพากษา โดยนัดพิจารณาครั้งแรกหรือไต่สวนพยานผู้ร้อง ในวันที่ 11 พ.ย. 64 (อ่านต่อรายละเอียด)
ล่าสุด นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า คดีดังกล่าวศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีหมายเลขดำ ที่คมจ.3/2564 ได้มีคำสั่งให้นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และนายภูมิศิษฎ์ คงมี ส.ส. จังหวัดพัทลุง พรรคภูมิใจไทย หยุดการปฏิบัติหน้าที่แล้ว ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มาตรา 235 วรรค สาม (กรณีเสียบบัตรแทนกัน)
สำหรับคดีนี้ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด นายฉลอง นายภูมิศิษฐ์ นางนาที ในความผิด พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ที่บัญญัติไว้ว่า
“เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ซึ่งในส่วนคดีอาญา ป.ป.ช. จะส่งให้อัยการเพื่อส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนความผิด “จริยธรรมร้ายแรง” ป.ป.ช. จะส่งให้ศาลฎีกาโดยตรง และมีรายงานว่า ในส่วนของ 3 ส.ส. ภูมิใจไทยนั้น ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนคำฟ้องไปยัง “ศาลฎีกา” ภายในสิ้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาแล้ว และคาดว่าการนัดพิจารณาครั้งแรก หรือไต่สวนพยานผู้ร้อง ในกรอบเดียวกับ น.ส.ธณิกานต์ ที่ศาลใช้เวลา 27 วัน