ส.ส.กมลศักดิ์ ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เข้าบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ เพื่อนำมาเป็นของตนและเครือญาติ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐอย่างร้ายแรง ในกรณีที่ดินรถไฟบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าที่ดินจำนวน 5,083 ไร่ เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ไม่สามารถออกโฉนดได้ และให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สินและบริวารออกจากที่ดิน รวมทั้งให้ชำระค่าเสียหายแก่ รฟท.
แม้ล่าสุด รฟท.จะทำหนังสือไปยังกรมที่ดินเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินรถไฟเขากระโดง แต่ที่น่าสนใจคือหนังสือตอบจากกรมที่ดิน ระบุว่าสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีคำวินิจฉัยให้ รฟท.ดำเนินการฟ้องคดีต่อศาล เพื่อเพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 3466 และ 8564 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กรมที่ดินขอทราบเหตุผลที่ รฟท.ไม่ดำเนินการฟ้องคดี เพื่อให้เป็นไปตามความเห็นอัยการสูงสุดก่อนที่จะมีการเพิกถอนที่ดิน โดยเฉพาะที่ดินแปลง 8564 ที่รมว.คมนาคม ครอบครองอยู่จนถึงทุกวันนี้
การเพิกเฉยของ รมว.คมนาคมคือความไม่เท่าเทียมกันในการบังคับใช้กฎหมายและความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ดินเขากระโดงทั้งแปลง 5,000 ไร่ มูลค่าซื้อขายน่าจะเป็นหมื่นล้าน หาก รฟท.ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินกลับคืนมา จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าเช่า และประชาชนตรงนั้นจะยังได้อาศัยอยู่ต่อไป
ขณะเดียวกันสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท. ยังคงเดินหน้าทวงคืนที่ดินเขากระโดง ล่าสุดได้ทำหนังสือขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลกรมที่ดิน โดยกำหนดหารือในวันที่ 8 กันยายนนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดินเขากระโดง