“สิระ + ณัฐชา”ลงพื้นที่ดินแดง สำรวจผลกระทบก่อนนัดถก ผบ.ตร.

ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ สิระ เจนจาคะ  ในฐานะประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วย ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมด้วยกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และตำรวจ เดินทางลงพื้นที่โครงการ The Capital Condo ราชปรารภ-วิภาวดี และแฟลตดินแดง ติดตามผลกระทบของประชาชนจากการชุมนุมทางการเมือง

โดย ส.ส.สิระ บอกว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่รับฟังข้อเท็จจริงให้รอบด้าน ก่อนที่จะบอกว่าใครถูกใครผิด โดยจะหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ ในการประชุมร่วมของกรรมาธิการ 2 คณะ  รวมถึง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง  และ  ผู้ได้รับผลกระทบ ในวันพุธที่ 25 สิงหาคม เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและเสนอแนะวิธีการปฏิบัติและทางออก จึงขอความร่วมมือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้ความสำคัญและร่วมมือกับคณะกรรมาธิการฯที่มีการส่งหนังสือเชิญไป แต่หาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่เดินทางเข้าร่วมประชุม ตามคำเชิญ คณะกรรมาธิการฯ 2 คณะ  ก็จะได้มีการหารือกันเบื้องต้นว่า จะนำคณะกรรมาธิการฯทั้ง2คณะจะไปประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะเชิญผู้บังคับบัญชาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาร่วมพิจารณาด้วย

นายสิระ ยังฝากไปยังผู้ชุมนุมว่า การชุมนุมสามารถทำได้ตามกฎหมาย แต่จะต้องปราศจากอาวุธและการใช้ความรุนแรง จึงอยากเรียกร้องไปยังผู้ชุมนุมให้มีการคัดกรองบุคคลที่ชอบใช้ความรุนแรงและตรวจค้นอาวุธผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุม เพื่อจะได้ยืนยันกับสังคมว่าเป็นการชุมนุมโดยสันติ ส่วนการเรียกร้องเกี่ยวกับตัวนายกรัฐมนตรีนั้นขอให้นำข้อมูลส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อใช้สภาเป็นที่หาทางออก

“วันนี้เรามีประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว ไม่ใช่เผด็จการ ผ่านช่องทางสภาผู้แทนราษฎรดีที่สุด เราเลือกตัวแทนไปทำงานให้ประชาชนแล้ว ใช้ตัวแทนของท่านผ่านกฎหมาย ผ่านการเปลี่ยนแปลงที่สภา ขอเรียกร้องผู้ปกครองเด็กอย่าพกพาอาวุธมาในการชุมนุม อย่าใช้ความรุนแรง” นายสิระ กล่าว

ด้านนายณัฐชา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ วันนี้ ได้รับฟังความเห็นของประชาชน พบว่า  ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจากการสลายการชุมนุมที่ประชาชนตั้งคำถาม ว่า  รุนแรงเกินไปหรือไม่  ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้ร่วมกันหาความจริงให้ปรากฎแก่สาธารณชนในทุกมิติและทุกมุม และยินดีที่จะทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกให้ประชาชน ซึ่งเมื่อความจริงปรากฏคิดว่าหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเยียวยาประชาชนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม