21 สิงหาคม 2564 ความคืบหน้ากรณีที่นายคมสันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ดื่มเหล้าเมาแล้วคลุ้มคลั่งอาละวาดทำลายข้าวของในบ้านพี่สาว ในหมู่บ้านประดาจะบก ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งตัวเอง แม่ และหลานอาศัยอยู่จนพังเสียหาย ทั้งยังตบหน้าหลานชายวัย 11 ขวบ และขู่ทำร้ายคนในบ้าน ก่อนจะแจ้งตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่นายคมสันต์ กลับใช้มีดและขวานทุบกระจกรถโล่ของตำรวจสายตรวจจนแตกร้าว ทั้งยังทุบรอบตัวรถเป็นรอยบุบหลายจุด เหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ส.ค.64) ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าชาร์ทจับตัวได้แบบทุกลักทุเล แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุดวันนี้ ร.ต.อ.ชัยรัตน์ บุญชู รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบสภาพความเสียหาย และสอบถามข้อมูลจากคนในครอบครัว ซึ่งพี่สาวที่เป็นเจ้าของบ้านก็ยืนยันจะเอาเรื่องน้องชาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแนะนำให้สำรวจทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย แล้วเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ที่โรงพักอีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามขั้นตอน อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นก็ได้แจ้งข้อหานายคมสันต์ 3 ข้อหา คือ “ทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ,เมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งรถตำรวจที่ได้รับความเสียหายอยู่ระหว่างส่งไปประเมินราคาค่าเสียหายอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจปัสสาวะนายคมสันต์ ไม่พบมีสารเสพติดในร่างกาย แต่เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าเมื่อหลายปีก่อนนายคมสันต์ เคยถูกจับส่งบำบัดฐานเสพสารเสพติด ทั้งนี้จากการสอบถามนายคมสันต์ เมื่อเช้าก็มีอาการสงบลงพูดคุยรู้เรื่อง ก็อ้างว่าที่ทำลายข้าวของเป็นเพราะเมาควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ประกอบกับถูกพี่สาวบ่นและต่อว่าจึงเกิดความโมโห หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวนายคมสันต์ ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนางรองแล้ว
ขณะที่พี่สาว และคนในครอบครัวต่างก็กลัวจะไม่ปลอดภัย หากนายคมสันต์ ได้รับการปล่อยตัวหรือพ้นโทษออกมา เพราะนายคมสันต์ ได้ขู่อาฆาตจะเอาชีวิตคนในครอบครัวเอาไว้
โดย - สุรชัย พิรักษา