ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท126/2562 จำคุกตลอดชีวิต นายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร กรณีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)จากการส่งออก 25 บริษัท จำนวนกว่า 3,000 ล้านบาท
เปิดประวัติ
สำหรับ นายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร เป็นคนจังหวัดแพร่ เขาเกิดในตระกูลดัง มีพี่ชายเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีช่วงว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ด้านการศึกษานั้น นายสาธิตจบมัธยมตอนปลายที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ส่วนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เขาสอบเข้าได้ในคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนเรียนจบและเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจนได้รับปริญญาเศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิตจาก มหาวิทยาลัย Atlanta
ชีวิตข้าราชการดาวรุ่งพุ่งแรง
นายสาธิต รังคสิริ เป็นหนึ่งในข้าราชการดาวรุ่งที่มาแรงของก.การคลัง ถึงขั้นเป็นตัวเต็งที่จะน่าจะก้าวขึ้นถึง “ปลัดกระทรวงการคลัง”ได้ ถ้าบทชีวิตในวันนี้ ไม่สะดุดเสียก่อน หลังมี “จดหมายร้องเรียน” ปลิวร่อนไปยังหน่วยงาน ที่มีหน้าที่ตรวจสอบหลายแห่งเมื่อช่วงปี 2556
จดหมายร้องเรียน ฉบับดังกล่าว ได้แจงข้อกล่าวหาระบุว่า นายสาธิต มีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ส่งออกเศษเหล็ก ที่ขอคืนแวตจากการส่งออกจำนวนมากขึ้นจนผิดปกติ กระทรวงการคลังจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2556 ซึ่งผลการสืบสวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏชื่อนายสาธิตเกี่ยวข้องกับกระบวนการโกงภาษีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด ทำให้นายสาธิตกลับมาเป็นผู้ตรวจราชการ กระทรวงการคลังตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2556
นายสาธิต สามารถประคับประคองตัวผ่านพ้นมาได้ท่ามกลางข้อครหามากมาย จนกระทั่งในวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. ม.44 สั่งพักราชการนายสาธิต และทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เข้ามาตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบว่า นายสาธิตร่ำรวยผิดปกติ จึงมีคำสั่งอายัดทองคำมูลค่า 179 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2558
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายสาธิต รังคสิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง พ้นจากตำแหน่งราชการ ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2559 โดยประกาศ ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559
เปิดประวัติ-การศึกษา
นายสาธิต รังคสิริ จบมัธยมตอนปลายที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เข้าศึกษาต่อที่คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในปีพ.ศ.2520 สำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตร์บัณทิต สาขาเศรษฐศาสตร์ปีพ.ศ. 2524 จากนั้น นายสาธิตได้ไปศึกษาระดับปริญญาโทที่ Atlanta University ประเทศสหรัฐอเมริกา สำเร็จการศึกษาสาขา Master Of Art (Economic) ในปีพ.ศ.2527
เส้นทางชีวิตการทำงาน
เส้นทางการทำงานครั้งแรกของนายสาธิตหลังจากเรียนจบกลับมา อ้างอิงข้อมูลมาจาก เว็บไซต์ thaipublica.org รายงานว่า
นายสาธิต เข้ารับราชการที่กองนโยบายและแผนภาษี กรมสรรพากร โดยมี ร.อ. สุชาติ เชาว์วิศิษฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้อำนวยการกองฯ และนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล เป็นหัวหน้าส่วน นอกจากงานหลักแล้ว นายสาธิตยังมีอาชีพเสริมสร้างรายได้พิเศษจากการรับงานบรรยายเทคนิคการวางแผนภาษีให้กับบริษัท ห้างร้านต่าง ๆ รวมทั้ง เขียนตำรา 108 กลวิธีในการหลบเลี่ยงภาษี จากนั้น นายสาธิต ยังได้ก่อตั้งบริษัท บางกอก เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด ร่วมกับเพื่อน
บริษัทฯ ดังกล่าว เป็นธุรกิจรับเป็นที่ปรึกษากฎหมายและวางแผนภาษีอากร ซึ่งเขานั่งเป็นกรรมการบริษัทเต็มตัวเมื่อปี 2538 ถือว่าเป็นธุรกิจที่ทำให้นายสาธิมีฐานะความเป็นอยู่ที่มั่นคงอย่างมาก เขาเริ่มรับราชการในตำแหน่ง นักวิชาการ 3 กรมสรรพากร โดยมี ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้อำนวยการกองฯ และนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล เป็นหัวหน้าส่วน
ว่ากันว่าในขณะนั้น ประเทศไทย มีการปฏิรูปโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่ โดยเปลี่ยนจากระบบภาษีการค้ามาเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) นายสาธิตได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในคณะทำงานศึกษาหาแนวทางในการนำระบบ แวต มาใช้แทนภาษีการค้า นายสาธิตจึงมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นอย่างดี
จวบจนในปี 2536 นายสาธิตและเพื่อนร่วมกันก่อตั้งบริษัท บางกอก เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด โดยมี นายสาธิต มานั่งเป็นกรรมการบริษัทเต็มตัวเมื่อปี 2538 ทำธุรกิจรับเป็นที่ปรึกษากฎหมายและวางแผนภาษีอากร ให้กับบริษัทห้างร้าน โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง ใช้บริการจากบริษัทฯ ของนายสาธิต
นายสาธิต ยังได้รับการสนับสนุนที่ดีจากฝ่ายการเมือง ทำให้อาชีพรับราชการของนายสาธิตเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยนายสาธิตขึ้นดำรงตำแหน่ง รองหลัดกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 แค่เพียง 3 เดือน ก็ถูกโยกมานั่งเป็นผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ซึ่งเป็นตำแหน่งเทียบเท่าอธิบดี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2552
ต่อจากนั้น ได้ขึ้นเป็นอธิบดีกรมสรรพากรในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล ถือเป็นช่วงขาลงในชีวิตการทำงานของ นายสาธิต
ก่อนจะนั่งเป็น “ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง” ถือเป็นตำแหน่งสุดท้ายในชีวิตราชการ และ 19 สิหาคม 2564 ถือปัจฉิมบทครั้งสำคัญ ในการปิดฉากตำนานดาวรุ่งกระทรวงการคลัง..ที่ไม่สวยงาม!!