ผู้ว่าฯเบรคตอบโต้โซเชียล แอ่นอกรับหากถูกด่าขอรับไว้คนเดียว

17 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบูรณ์เมื่อบ่ายวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงการจัดฉีดวัคซีนกลุ่มเปราะบางกว่าครึ่งหมื่นที่โรงเรียนเพชรพิทยาคม อ.เมืองเพชรบูรณ์ กระทั่งกลายเป็นประเด็นดรามาว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาคือเรื่องการฉีดวัคซีนที่เป็นเรื่องดราม่า ก่อนอื่นตนขอชื่นชมทั้งทีมงานสาธารณสุข โรงพยาบาล และนายอำเภอทุกท่าน ที่มีเจตนาให้ประชาชนชาวเพชรบูรณ์ได้รับวัคซีนดีที่สุดและเร็วที่สุด แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้นจากการทำงาน ซึ่งคิดว่าเป็นปัญหาเล็กน้อย และเกิดขึ้นในทุกภาคส่วนและทุกจังหวัด ในระดับประเทศก็มีปัญหาเช่นกัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ต่อไปนี้ อยากขอความกรุณา ถ้าเกิดปัญหาลักษณะแบบนี้ขึ้นและมีดราม่า ขอให้เขาด่าผู้ว่าฯคนเดียว ทุกท่านไม่ต้องไปตอบโต้ ตนทนได้เพราะไม่ได้อ่าน ตนออกจากกลุ่มมาแล้ว ให้เขาด่าผู้ว่าฯคนเดียว ท่านต้องไปรับฟังในสิ่งที่อาจไม่ถูกใจไม่ชอบ จึงอยากจะขอความกรุณาทุกท่าน และอยากจะฝากนายอำเภอทุกคน เพื่อป้องกันปัญหาแบบนี้อีก หากมีการฉีดวัคซีนที่มีคนเยอะๆ ขอให้ประสานหน่วยงานข้างเคียงเข้าไปสนับสนุนในการจัดระเบียบ จะใช้วิธีหรือกลยุทธอย่างไรก็ได้ ที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะที่จะเป็นภาพที่ไม่ดีออกมาอีก

"ที่ผ่านมาผมก็รู้ว่าเป็นเพียงแป๊ปเดียว ที่เหลือก็สามารถจัดการได้ การฉีดวัคซีนวันนั้นจบภายใน 11.00 น.ด้วย ทางนพ.สสจ.เพชรบูรณ์ก็จับเข็มฉีดเอง และรองสืบพงษ์(รองผู้ว่าฯ)ไปยืนจัดระเบียบจนถึงเที่ยง ทุกท่านเหนื่อยผมเข้าใจ แต่บางทีสิ่งที่เราสื่อออกไป ทำให้เราท้อถอย บางทีทำให้เราเหนื่อย ท่านไม่ต้องไปตอบโต้ เดี๋ยวเขาดราม่ากับผมแป๊ปเดียว ผมทนได้ 2-3 วันเดี๋ยวผมลงรูปพระเขาก็ลืมแล้ว ท่านไม่ต้องตอบโต้ ผมเชื่อมั่นในการตั้งใจทำงานทุกท่าน"นายกฤษณ์ กล่าว

นายกฤษณ์ กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่ติดตามอยู่คือเรื่องไทม์ไลน์ ตนเคยขอความกรุณาทางคุณหมอและนายแพทย์สาธารณสุขฯทาง สสอ.ไปแล้ว เรื่องเล็กน้อยแต่อาจจะทำให้ น้องๆที่ทำงานน้อยเนื้อต่ำใจ บางทีคุณหมอเหนื่อย ตนเชื่อ และเห็นคนทำงานใส่ชุดขาวๆ(ชุดPPE) ตั้งแต่เช้าจนเย็น หากตนใส่แล้วคงเป็นลม แต่น้องๆผู้หญิงใส่ทั้งวันตนนับถือหัวใจ ตนไม่อยากให้เกิดสิ่งนี้กับคนทำงาน ที่ผ่านมาถือว่าผู้ว่ารับผิดชอบก็แล้วกัน อย่าไปตอบโต้ทำงานของเราไป

อนึ่งสำหรับเหตุการณ์ดราม่าดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ทาง สสจ.เพชรบูรณ์ มีการจัดฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มมีโรคร่วมเป้าหมาย 6,000 คน แต่มีภาพและคลิปกลุ่มคนจำนวนมากรอคิวกันเบียดเเสียดแน่นขนัด แชร์ว่อนสื่อโซเซียลพร้อมเสียงตำหนิดังกระหึ่มสังคมสื่อโซเชียลมีเดีย โดยส่วนใหญ่ต่างแสดงความไม่เห็นด้วยที่นำคนหมู่มาก โดยเฉพาะเป็นกลุ่มเปราะบางมาที่สุ่มเสี่ยงติดเชื้อ จึงควรบริหารจัดการให้ดีกว่านี้ เนื่องจากเกรงมีผู้ติดเชื้อกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ ทำให้กิดความสูญเสียตามมา

ต่อมามีแพทย์หญิงระดับผู้บริหารรายหนึ่ง  นอกจากไม่ยอมรับความจริงแล้ว ยังออกมาโต้ตอบชาวโซเชียลอย่างดุเดือด พร้อมฟาดใส่สื่อที่นำเสนอข่าว โดยกล่าวหาย่ำยีการทำงาน หิวแสงต้องการขายข่าว นอกจากยังเปิดชื่อประชาชนที่ปฏิเสธการรับวัคซีน กระทั่งถูกตำหนิรุนแรงไร้จรรยาบรรณ จนต้องรีบลบทิ้งทันที ทำให้เกิดการโต้แย้งกันอย่างเผ็ดร้อนขึ้น และลุกลามเริ่มสร้างภาพความร้าวฉาน ระหว่างภาคราชการกับภาคประชาชน จนสร้างความอึดอัดลำบากใจให้แก่หลายฝ่ายตามมา ในขณะที่ประชาชนให้ความสนใจติดตามดูว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร

โดย - สุนทร คงวราคม