เรียกได้ว่า การชุมนุมตลอด 3-4 ครั้งหลังสุด ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ “REDEM” กลุ่มราษฎร และม็อบทะลุฟ้า เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อตอนจบเหมือนการฉายหนังม้วนเดิม ระหว่างกลุ่มมวลชน และตำรวจ เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด จนเสียเลือดเสียเนื้อกันทั้ง 2 ฝ่าย
ซึ่งหลายฝ่ายพยายามวิเคราะห์ว่า สาเหตุอะไรที่ทำให้ท่าทีม็อบแข็งกร้าวขึ้นกว่าเก่า ทั้งประเด็นเรื่องเม้าท์มอยว่า แกนนำของกลุ่ม REDEM มีแนวคิดขัดแย้งกับกลุ่มราษฎร สังเกตได้จากการช่วยประชาสัมพันธ์งานกิจกรรมให้แต่ละกลุ่ม ซึ่งเพจเฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก” แทบไม้เข้าไปยุ่งในเรื่องนี้เลย แตกต่างจากเพจ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”
ขณะที่มีข้อมูลบางแหล่ง พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบ 3 นิ้วในช่วงหลัง โดยเฉพาะพวก “แนวหน้า” ของขบวน จะมีกลุ่มคนต่างด้าวเข้าร่วมชุมนุมด้วยเสมอ จนสร้างความประหลาดใจให้มวลชนบางส่วน แต่ช่วงแรกไม่มีใครติดใจ เพราะเห็นว่า พื้นที่การชุมนุมต้องเปิดกว้างให้กับบุคคลทุกกลุ่ม
กระทั่งเกิดเหตุปะทะมาตลอดช่วง 3-4 ครั้งหลัง พร้อมข่าวลือว่า “แนวหน้า” หรือแนวปะทะกับเจ้าหน้าที่ มีกลุ่มต่างด้าวรวมอยู่ด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดสังเกต
ขณะที่บัญชีทวิตเตอร์ “เจ๊จุก คลองสาม” โพสต์คลิปวิดีโอ 2 คลิป โดยคลิปแรกเป็นภาพชายสวมเสื้อกล้ามสีดำ กำลังยิงหนังสติ๊กใส่เจ้าหน้าที่ บริเวณถนนราชดำเนิน ซึ่งชายคนนี้พูดด้วยสำเนียงแปลกหู จนหลายคนฟันธงว่าเป็นต่างด้าว
ส่วนอีกคลิป เป็นเหตุการณ์ชายสวมเสื้อสีขาว พูดผ่านโทรโข่งทำนองว่า “มีพุจากมวลชนต่างด้าว” และบางช่วงระบุว่า “ใครอยากไป ไปปาด้านหน้า อย่าปาทางด้านหลัง มาๆ ช่วยมาปาตรงนี้กับต่างด้าวหน่อย หยิบหินคนละอันแล้วปามา”
ด้านเพจเฟซบุ๊ก “LOOK Myanmar” ซึ่งเป็นเพจเกี่ยวกับข่าวสารของชาวเมียนมา อ้างว่า กลุ่ม REDEM ใช้คนเมียนมาเป็นด่านหน้าในการชุมนุมวันที่ 7 ส.ค.และขอแจ้งเตือนชาวเมียนมาในไทยว่า อย่าเข้าไปยุ่งเรื่องการเมืองในประเทศคนอื่น
ทีมข่าวสอบถามข้อเท็จจริงจากตำรวจ ยืนยันว่า ยังไม่มีรายงานการจัดจ้างกลุ่มแรงงานต่างด้าว เข้าร่วมชุมนุม แต่อาจเป็นกลุ่มแรงงานที่อาศัยอยู่แถวนั้น ที่ออกมาดูการชุมนุม ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ อย่างที่สมาชิกโซเชียลบางกลุ่มกล่าวอ้าง