svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ก้าวไกลจวกรัฐใช้หลักสาแก่ใจสลายผู้ชุมนุม

14 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“โฆษกก้าวไกล” อัดรัฐใช้หลัก"สาแก่ใจ"แทนหลักสากล ในการใช้กำลังคฝ.สลายม็อบ ย้ำอาวุธยุทโธปกรณ์มิอาจปิดกั้นความคิด พร้อมสะท้อนรบ.เมินฟังเสียงของประชาชน

14 สิงหาคม 2564 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการชุมนุมที่ผ่านมา ว่า ต้องเข้าใจว่าเป็นการชุมนุมในช่วงวิกฤตโรคระบาด เชื่อว่ามีหลายคนที่เห็นด้วยมากกว่านี้ แต่ไม่สามารถออกมาร่วมชุมนุมได้ สำหรับคนที่ออกมา คือ ตัวแทนของผู้ได้รับผลกระทบ สิ่งที่อยากเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน ผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือผู้บังคับบัญชาในระดับสูงขึ้นไป อยากให้เข้าใจถึงความอัดอั้นของประชาชนด้วย

 

"ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดที่คร่าชีวิตคนในครอบครัวของเขา เพื่อนร่วมงานของเขา เพื่อนสนิทของเขา ทำให้เขาต้องมาเรียกร้องเพราะมันไม่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นผ่านการบริหารราชการแผ่นดินเลยในวิกฤตแบบนี้ ไม่มียารักษาให้ ไม่มีเตียง ไม่มีวัคซีน กลับกันแต่ละวันมีแต่ภาพข่าวกลุ่มวีไอพีได้เข็มสามบ้าง มีจังหวัดวีไอพีที่ได้รับวัคซีนก่อนเพื่อนบ้าง ซึ่งคนที่ออกมาบางคนยังรอวัคซีนเข็มแรกอยู่เลย บางคนยังถามหาแค่เตียงสนาม ในขณะที่กลุ่มวีไอพีที่ยังไม่มีอาการอะไร ก็เข้านอนรักษาในโรงพยาบาล มีภาพอุปกรณ์ครบครันตั้งอยู่ข้างๆเพียงเพื่อความสบายใจเท่านั้น" นายณัฐชา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ความอัดอั้นเหล่านี้จึงทำให้ออกมาตัดสินใจสู้ตาย จากเดิมที่เยาวชนคนหนุ่มสาวเรียกร้องไม่กี่ข้อ ที่รัฐบาลช่วยเหลือได้ แต่กลับไม่ทำ จนกลายเป็นทำให้ต้องออกมาต่อสู้เพื่อหาทางรอด รัฐบาลไม่มองตรงนี้กลับใช้ความรุนแรงเข้าจัดการ ซึ่งประวัติศาสตร์ก็มีบทเรียนอยู่แล้ว ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ไม่อาจกดความรู้สึกนึกคิดประชาชนได้ แต่รัฐบาลก็ยังเลือกอนุมัติให้ใช้อาวุธคุมฝูงชน โดยไม่ใช่หลักสากล แต่เป็นหลักสาแก่ใจ 

 

"แค่ลงรถเมล์ก็ยิงใส่เขาแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าเขามาเพื่ออะไร ยังไม่มีการเจรจาพูดคุย ก็แต่ปักหลักแล้วว่า ทุกการชุมนุมไม่ให้เกิด ไม่ให้ขยับเขยื้อน เอาสิ่งของเอาอาวุธมายุติ ภาพที่ออกมา คือ ความพยายามสร้างความรุนแรงให้กลายเป็นความคุ้นชินต่อประชาชนทางบ้านและบอกว่าจะยุติความวุ่นวายได้ ด้วยการทำแบบนี้ ซึ่งผมคิดว่าไม่เป็นความจริง และมีแต่จะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งเป็นการพิสูจน์ว่าผู้นำประเทศไม่เคยมองเห็น และรับรู้ถึงความรู้สึกทุกข์ร้อนของประชาชนเลย เชื่อว่าไม่ว่าจะใช้รุนแรงแค่ไหน การชุมนุมก็ยังขับเคลื่อนและเดินต่อ เพราะการชุมนุมครั้งนี้คือการหาทางรอดจากความตายจึงไม่มีอะไรจะไปกีดขวางปิดกั้นเขาได้" โฆษกพรรค กล่าว

logoline