ปปท.ภาค3 ลงตรวจสอบโครงการดินแลกน้ำ หลังชาวบ้านร้องไม่โปร่งใส

14  ส.ค.2564  ที่บริเวณป่าสาธารณะประโยชน์ โคกดงเปือย  บ้านดงเปือย  ต.กุดขาคีม  อ.รัตนบุรี  จ.สุรินทร์  พ.ต.ท.ทนง  เพิ่มพูน  ผอ.ปปท.ภาค 3,  น.ส.ธัทธพร  มีพร้อม  นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการ,  คณะ จนท.ปปช.สุรินทร์,   ร.ต.รัชรุจ  ขอชนะ  กอ.รมน.สุรินทร์,  นายสนทนา  เทิดธีรธรรม  ปลัดอำเภอรัตนบุรี,  ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าโคกดงเปือย ซึ่งเป็นป่าสาธารณะประโยชน์เป็นที่เก็บกักทราย    และไถทำลายป่าทามกุดอีโจก -พุทธา ซึ่งเป็นป่าชุมชน ติดริมฝั่งแม่น้ำมูล  ทำให้พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง   จนล่าสุดนายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอรัตนบุรี ได้สั่งระงับการนำทรายเข้ามาเก็บในที่สาธารณะ พร้อมสั่งให้นายผจงศักดิ์  กนกแก้ว  นายก อบต.กุดขาคีม ได้รายงานข้อเท็จจริงให้ทราบภายใน 3 วัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

 

ในวันดังกล่าวได้มีตัวแทนชาวบ้าน จากบ้านดงเปือย ต.กุดขาคีมและชาวบ้าน จาก ต.โพนครก  อ.ท่าตูม  จ.สุรินทร์ ได้ลงพื้นที่มาให้ข้อมูลในครั้งนี้ด้วย  จากการลงพื้นที่ ครั้งนี้ ไปลงพื้นที่เข้าสำรวจ จำนวน  2  จุด  จุดแรก เป็นบริเวณป่าโคกดงเปือย ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ ได้พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีกองทรายขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังได้พบรถแบ็คโฮจอดไว้จำนวน  1 คัน ส่วนสภาพโดยทั่วไปพบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการไถกลบหน้าดินไปแล้ว  นอกจากนี้ยังพบเห็นซากตอไม้ และเสาหลักเขตป่าสาธารณะประโยชน์ ถูกชนหักล้มระเนระนาดอยู่ในสถานที่แห่งนั้นด้วย ที่บริเวณด้านหน้ากองทรายพบป้ายสีเขียว ที่ อบต.กุดขาคีม ทำขึ้นมาปักแสดงให้รู้ว่า เป็นสถานที่เก็บกองทรายจากโครงการขุดลอกแม่น้ำมูลฯ และที่ข้าง ๆ มีป้ายสีแดงตั้งอยู่ 2 ป้าย ป้ายแรกเขียนว่า ทรายกองนี้จำหน่วย เพื่อช่วยเหลือผู้ติดโควิด 19 จังหวัดสุรินทร์  และอีกป้าย มีข้อความว่า ทรายกองนี้  จำหน่วยเพื่อร่วมบูรณปฏิสังขรณ์(ปูกระเบื้อง) วัดท่าอัมพวัน  บ้านดงเปือย ตำบลกุดขาคีม อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์  ซึ่งทั้งป้ายขายทรายช่วยโควิด ทั้งชาวบ้านและนายอำเภอรัตนบุรีก็ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนว่านายทุนจะขายทรายช่วยโควิด  ขณะที่ทางหลวงพ่อมงคล  ปะภากะโร  เจ้าอาวาสวัดท่าอัมพวันก็บอกไม่รู้เรื่องที่จะมีการขายทรายเอาเงินซื้อกระเบื้อง ซึ่งกระเบื้องที่ปูวัดทั้งหมดก็มีเจ้าภาพทั้งหมดแล้ว จากนั้นทางคณะได้ลงพื้นที่ไปยังแม่น้ำมูล  ซึ่งเป็นสถานที่ขุดลอกทรายตามโครงการขุดลอกแม่น้ำมูล เพื่อดูแลและรักษาสภาพน้ำ ก็พบว่าผู้รับเหมาได้ทำทางลงไปในแม่น้ำเพื่อให้รถบรรทุกสามารถบรรทุกทรายขึ้นมาได้สะดวก  ขณะที่ชาวบ้านที่เข้าให้การกับ จนท.ปปท.และ จนท.ที่ลงตรวจพื้นที่ว่า ดินที่ทางผู้รับเหมานำมาถมก็มาจากป่าโคกดงเปือย และได้นำไม้ที่ไถจากการถางป่าทามกุดอีโจก -พุทธา ลงมาปูทางทำถนนลงมาในลำมูลด้วย

 

ด้าน ผอ.ปปท.ภาค 3  นครราชสีมา  ให้สัมภาษณ์ว่า  จากการบูรณาการลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริง ครั้งนี้มาจากการ้องเรียนจากชาวบ้านร้องเรียนในหลายประเด็น เช่น กล่าวโทษนายก อบต.กุดขาคีม ที่ปล่อยให้มีผู้รับเหมาบุกทำลายป่า  ประเด็น อบต.กุดขาคีมปล่อยให้ผู้รับเหมาดำเนินการขุดทราย ขณะที่สัญญาก็หมดไปแล้วประเด็นการดำเนินการขุดลอกแม่น้ำมูลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งต้องตรวจสอบทั้งเขตพื้นที่รับผิดชอบ เป็นไปตามโครงการหรือไม่   เบื้องต้น ได้ให้ ทาง อบต.กุดขาคีม ทำเรื่องชี้แจงตามที่มีการร้องเรียน  ขณะเดียวกัน ทาง ปปท.ก็จะขอหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาประมวลหากพบความผิดก็จะได้ดำเนินการกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป