สธ.คาด หากล็อกดาวน์ไม่เข้มข้น “ก.ย.”ยอดผู้ป่วยโควิดจะไปถึง 70,000ต่อวัน
สธ.เผยข้อมูลโควิด หากไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงปลายส.ค.นี้ ยอดโควิดอาจจะพุ่งไปถึง 70,000 รายต่อวัน แต่ถ้าทุกคนพร้อมใจร่วมล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดจะพบการติดเชื้ออยู่ที่ 45,000 รายต่อวัน ในช่วงต้นเดือน ก.ย.ถึงกลางเดือน ก.ย.
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างการแถลงสถานการณ์ประจำวันว่า วันนี้ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้รับทราบตัวเลขการพยากรณ์หรือการคาดการณ์กับจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในสถานการณ์จริง ของกระทรวงสาธาณสุข เกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ดังนี้
1. ถ้าไม่มีการล็อกดาวน์เลยจะเห็นการติดเชื้อในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนอยู่ในระดับประมาณ 60,000-70,000 รายต่อวัน
2.ถ้ามีการล็อกดาวน์ที่มีประสิทธิภาพให้ได้ที่ 20% อย่างในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ จะพบว่ามีการติดเชื้อประมาณ 45,000 รายต่อวัน ในช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนกันยายน ซึ่งก็ยังสูงอยู่
3.ถ้ามีการร่วมมือกันได้มากกว่านี้ เพื่อจะกดกราฟของการติดเชื้อให้ได้ประมาณ 25% หรือเพิ่มจากเดิมให้ได้อีก 5% ซี่งจะต้องมีการล็อกดาวน์ที่มีประสิทธิภาพนาน 2 เดือน และเร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อก็ยังแตะในระดับเกือบ 20,000 รายต่อวัน
“นี่เป็นตัวเลขการคาดการณ์ ที่กระทรวงสาธารณสุขแจ้งมาระหว่าง 3 เส้นนี้ ที่เกิดขึ้นจากการคาดการณ์ ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ขัดจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเลย แต่ความเป็นจริงที่เราอยากให้เกิดคือเส้นสีเขียวที่อยู่ด้านล่าง(ล็อกดาวน์ให้เกิดประสิทธิภาพ25%) ซึ่งจะทำให้เราใช้ทรัพยากรเรื่องเตียง ทรัพยากรเรื่องสุขภาพลดน้อยลง และอัตราการเสียชีวิตก็จะลดลงด้วย” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว และว่า
"จะต้องฝากทุกท่านให้ช่วยกันในการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เป็นคำเดิมๆ แต่ต้องมีการกระหึ่มกันอีกครั้งหนึ่ง ให้พยายามทำกันให้ดีกันทุกๆ คน"
เช่นเดียวกับการคาดการณ์ผู้เสียชวิต สถานการณ์ในปัจจุบันหลังระดมฉีดวัคซีน มีการรับการรักษาเร็วขึ้น ถ้าล็อกดาวน์ได้ 25% จะลดการเสียชีวิตลงไดอีก ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันก็เริ่มลงมาใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงแล้ว แต่ก็ยังจะต้องล็อกดาวน์ที่มีประสิทธิภาพให้ได้ 25% เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงอายุให้ถึงเป้าหมายภายใน 1-2 เดือนนี้
“แต่ในบางจังหวัด ในต่างจังหวัด หลายๆจังหวัดที่เราเห็นยังมีการไม่ให้ความร่วมมือ ยังเห็นภาพของการดื่ม การเล่น การเสพ ซึ่งก็ต้องขอความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันด้วย เพราะการสู้กับโรคระบาดนี้คนหนึ่งคนใดทำไม่สำเร็จ ต้องรวมมือกันทั้งประเทศ”นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว