svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ด่วน !! ศาลสั่งเพิกถอนประกัน “เพนกวิน” แล้ว หลังทำผิดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราว นอนคุกทันที

09 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ด่วน !! ศาลสั่งเพิกถอนประกัน “เพนกวิน” แล้ว หลังทำผิดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราว นอนคุกทันที

9 สิงหาคม 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ที่ศาลอาญามีการไต่สวนเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว นาย พริษฐ์ ชิวารักษ์ ชื่อเล่น เพนกวิน

 

โดยภายหลังการไต่สวน ศาลมีคำสั่งว่าพิเคราะห์คำร้องขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวเพิ่มเติมที่ 1 ฉบับลงวันที่วันนี้ทั้งสองฉบับ ประกอบพยานหลักฐานตามเอกสารแนบท้ายคำร้องทั้งสองแล้วเห็นว่าในส่วนของจำเลยที่ 1 โจทก์มีภาพถ่ายของจำเลยที่ 1 ที่ได้โพสต์รูปตนเองถือภาพพระบรมฉายาลักษณ์เเละกระทำการไม่เหมาะสม  ข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานดังกล่าวรับฟังได้อย่างชัดแจ้งโดยไม่จำต้องทำการไต่สวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงปรากฏเพิ่มเติมอีก

 

การกระทำของจำเลยที่ 1ดังกล่าว ถือว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาด้อยค่าหรือลดคุณค่าของสถาบัน และจะมีผลเสื่อมเสียต่อสถาบันในที่สุดอันเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ทั้งศาลเคยตักเตือนจำเลยที่ 1และกำชับจำเลยที่ 1ผ่านผู้กำกับดูแลมาแล้วจึงให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ให้ผู้ประกันส่งตัวจำเลยที่ 1 ต่อศาลภายใน 3 วันแจ้งคำสั่งให้ผู้ประกันจำเลยที่ 1และจำเลยที่ 1ทราบ

 

แต่ในส่วนของจำเลยที่ 2และที่ 5 เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่แจ้งชัดจึงเห็นควรให้นัดไต่สวนไปพร้อมกับที่โจทก์เคยยื่นคำร้องขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2และที่ 5 เดิมในวันที่ 7 ก.ย.64 เวลา 09.00 น.

สำหรับจำเลยที่ 2 เเละ 5 ในคดีที่ถูกยื่นถอนประกัน คือ นายอานนท์ นำภา เเละน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง 

 

 

และที่ศาลจังหวัดธัญบุรี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองห้า นำตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรีมาส่งศาลพร้อมยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 1 เป็นคดีหมายเลขดำที่ ฝ 382-390 / 2564  ผู้ต้องหา ได้แก่ 1.นายพรหมศร  วีระธรรมจารี    2.นายSam SamartหรือSamat หรือ แซม สาแมท  3.นายพริษฐ์หรือเพนกวิน  ชิวารักษ์  4.นายณัฐชนน  ไพโรจน์  5. นายสิริชัย  นาถึง 6.นายชาติชาย  แกดำ 7.นายภาณุพงศ์  จาดนอก  8.น.ส.ปนัดดา        ศิริมาศกุล 9. นายธนพัฒน์  กาเพ็ง ตามลำดับ โดยพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 9  มีข้อหาดังนี้


         ข้อหาที่ 1  มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย   ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ     ในการกระทำความผิดนั้น (ผู้ต้องหาลำดับที่ 2 ไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการฯ)


         ข้อหาที่ 2 ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่มีจำนวนรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน


        ข้อหาที่ 3 ร่วมกันจัดให้มีการชุมนุมหรือกิจกรรมที่มี ความเสี่ยงการแพร่โรคในพื้นที่ที่ประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่ควบคุมสูงสุดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ,     


         ข้อหาที่ 4 ร่วมกันกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป 


         ข้อหาที่ 5 ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข็มงวดที่มีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า  5 คน อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ 7022/2564  เรื่อง กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ข้อ 8 


         ข้อหาที่ 6 ร่วมกันทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต (ยกเว้นผู้ต้องหาลำดับที่ 2 และ 5) 


         ข้อหาที่ 7 ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ (ยกเว้นผู้ต้องหาลำดับที่ 1 , 3 , 6  และ 9 )


    พฤติการณ์ตามที่ถูกกล่าวหาสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จับกุมนายจตุภัทร์  บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ดาวดิน กับพวก มาควบคุมที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค ๑ หมู่6 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.คลองห้า

 

ต่อมาวันเดียวกัน (๒ ส.ค.๖๔) ได้มีนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์   นายณัฐชนน ไพโรจน์ น.ส.ปนัดดา ศิริมาศกุล นายภาณุพงศ์  จาดนอก นายธนพัฒน์  กาเพ็ง นายพรหมศร    วีระธรรมจารี นายชาติชาย  แก้วดำ นายสิริชัย  นาถึง เป็นแกนนำหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการให้มีการ    มั่วสุมกันมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ตั้งแต่ ๑๐ คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยนายพริษฐ์ หรือเพนกวินฯ กับพวก  มีการสลับกันขึ้นพูดปราศรัยบนรถที่มีเครื่องขยายเสียงโดยไม่มีการขออนุญาต มีการพูดปลุกเร้า กดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวนายจตุภัทร์  บุญภัทรรักษา (ไผ่ดาวดิน) กับพวกที่ถูกจับกุมและควบคุมตัวอยู่ภายใน บก.ตชด.ภ.1 ออกมา และมีการก่อความวุ่นวายโดยใช้รถยนต์ปิดกั้นถนนลักษณะเป็นการขัดขวางการจราจรทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนวุ่นวายในบ้านเมือง ทั้งยังได้ปราศรัยโจมตี      การทำงานของเจ้าหน้าที่และรัฐบาล


    เวลา 15.00 นาฬิกา ทนายความของผู้ต้องหาลำดับที่ 1-9  ขอคัดค้านการขอฝากขังครั้งที่ 1และขอให้ศาลไต่สวนพนักงานสอบสวน ศาลออกนั่งพิจารณาโดยมีบุคคลที่ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ไว้วางใจเข้าร่วมฟังการพิจารณาหน้า  ห้องพิจารณาคดีที่ 9 ก่อนการไต่สวนศาลได้อ่านและอธิบายคำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวนและแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบ


              เวลา 21.00 นาฬิกา ศาลอ่านคำสั่งคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาลำดับที่ 1 ,  3 , 4 , 5 , 6 , 7 ,   8 และ 9 พิเคราะห์พยานหลักฐานชั้นไต่สวนคำร้องและคำแถลงคัดค้านแล้ว เห็นว่า เจ้าพนักงานตำรวจใช้อำนาจควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีมีหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหาน่าจะได้กระทำความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน ๓ ปี เมื่อผู้ต้องหาไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว และมีเหตุจำเป็นที่จะสอบสวน พนักงานสอบสวนชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ออกหมายขังได้ เมื่อพนักงานสอบสวนยังดำเนินการสอบสวนไม่แล้วเสร็จ กรณีมีเหตุจำเป็นเพื่อทำการสอบสวนต่อไป จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ตามขอ


    เวลา 21.05 นาฬิกา ศาลอ่านคำสั่งคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาลำดับที่ 2 พิเคราะห์พยานหลักฐานชั้นไต่สวนคำร้องและคำแถลงคัดค้านแล้ว เห็นว่า เจ้าพนักงานตำรวจใช้อำนาจควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีมีหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหาน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันกับความผิดที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ มีเหตุอันควรเชื่อว่าจะก่อเหตุอันตรายประการอื่น เมื่อผู้ต้องหาไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว และมีเหตุจำเป็นที่จะสอบสวน พนักงานสอบสวนชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ออกหมายขังได้ เมื่อพนักงานสอบสวนยังดำเนินการสอบสวนไม่แล้วเสร็จ กรณีมีเหตุจำเป็นเพื่อทำการสอบสวนต่อไป จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ตามขอ    


    ศาลแจ้งสิทธิในการขอปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาลำดับที่ 1-9 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวต่อศาล 


    
 เวลา 21.40 นาฬิกา ศาลอ่านคำสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของผู้ต้องหาลำดับที่ 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 และ 8 ว่า พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าตามข้อกล่าวหาผู้ต้องหาได้กระทำการโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวมในภาวะที่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในวงกว้าง ทั้งที่ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีอื่นอันเป็นพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย        

 

หากปล่อยชั่วคราวไปเชื่อว่าผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 108/1(3) ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว จึงไม่มีเหตุที่จะปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน    ให้ยก   คำร้อง แจ้งคำสั่งให้ผู้ต้องหาและผู้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวทราบเป็นหนังสือโดยเร็ว 


        เวลา 21.50 นาฬิกา ศาลอ่านคำสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของผู้ต้องหาลำดับที่ 9 ว่า พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าตามข้อกล่าวหาผู้ต้องหาได้กระทำการโดยไม่เกรงกลัว         ต่อกฎหมายบ้านเมือง เห็นว่าตามข้อกล่าวหาผู้ต้องหาได้กระทำโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง      ทั้งไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวมในสภาวะที่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในวงกว้าง หากปล่อยชั่วคราวไปเชื่อว่าผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 108/1(3) ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว      จึงไม่มีเหตุที่จะปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน ให้ยกคำร้อง แจ้งคำสั่งให้ผู้ต้องหาและผู้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวทราบโดยเร็วเป็นหนังสือโดยเร็ว

logoline