กรณีนางวิสาข์ อ่ำพุธ นักวิชาการเงินและบัญชีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร ทุจริตค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิด-19 กว่า 12 ล้านบาท โดยเบื้องต้นได้มีแจ้งความกับพ.ต.ท.ไพศาล วรรณชัย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชรไว้เป็นหลักฐานเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา พร้อมมีคำสั่งให้ออกจากทางราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบสวน
พ.ต.อ.วัชรเกียรติ สิริวิมลฤทธิ์ ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร กล่าวว่า หลังรับแจ้งความทางพนักงานสอบสวนได้ติดตามรวบรวมพยานหลักฐานการทุจริตดังกล่าว พร้อมกับตั้งข้อหาความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดเบียดบังเอาทรัพย์นั้นไปเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตหรือทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดบัญชีธนาคารของนางวิสาข์ อ่ำพุธ ตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ ประกอบด้วยบัญชีธนาคารกรุงไทย 2 บัญชี และธนาคารไทยพาณิชย์ 1 บัญชี แต่พบว่าธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลขบัญชีที่แจ้งมาไม่ได้เป็นชื่อของนางวิสาข์ แต่อย่างใด คงต้องดำเนินการสอบสวนตรวจสอบกันต่อไป
จากการตรวจสอบในบัญชีธนาคารของเจ้าหน้าที่ พบว่าเส้นทางการโอนเงินเข้าบัญชีของนางวิสาข์ มีมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เป็นต้นมาจนถึงเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งแต่ละเดือนมีการเคลื่อนไหวของยอดเงินเข้าบัญชีตั้งแต่หลักพันจนถึง 1 ล้านกว่าบาทอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการถอนออกเป็นระยะๆเช่นกัน และจากการตรวจสอบยอดสุดท้ายบัญชีหลักคือธนาคารกรุงไทย ของนางวิสาข์ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 พบว่ามีเงินเหลือเพียง 79.31 บาทเท่านั้น
ด้านคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถที่จะเรียกตัวผู้กระทำผิดมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ เพราะเป็นการทุจริตของหน่วยงานภาครัฐที่เจ้าพนักงานจะต้องรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดเสียก่อนจึงจะนำตัวมาดำเนินคดี คงต้องใช้ระยะเวลาและขั้นตอนพอสมควร และภายสัปดาห์นี้ หากหลักฐานครบถ้วน เจ้าพนักงานจะได้รวบรวมส่งให้กับทางป.ป.ช.เป็นพิจารณาตามข้อกฏหมาย ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับ ป.ป.ง.ในเรื่องของการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ได้ถูกยักย้ายถ่ายเทไปในบัญชีหรือบุคคลอื่นก็ได้ สำหรับนางวิสาข์ ยังเก็บตัวเงียบอยู่บ้านนั้น หากมีการหลบหนีจะได้ออกหมายจับทันที
ภาพ/ข่าวโดย พิพัฒน์ จงมีความสุข /กำแพงเพชร