จุรินทร์ ชงนายกฯเคาะประกันรายได้ข้าว 23 ส.ค.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ครั้งที่ 1/2564 ระบุว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบเบื้องต้นในการเดินหน้านโยบายประกันรายได้หรือการประกันรายได้เกษตรกรปีที่ 3 

สำหรับปีที่ผ่านมาได้จ่ายเงินส่วนต่างสูงสุดให้ข้าวจำนวน 5 ชนิด ได้แก่ข้าวหอมมะลิ จ่ายเงินชดเชยหรือเงินส่วนต่างสูงสุด 42,830 บาท/ครัวเรือน ข้าวหอมนอกพื้นที่ 41,680 บาท/ครัวเรือน ข้าวเปลือกเจ้า 36,670 บาท/ครัวเรือน ข้าวหอมประทุม 26,674 บาท/ครัวเรือน ข้าวเปลือกเหนียว 33,350 บาท/ครัวเรือน
 

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการคู่ขนานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอีก 3 มาตรการ ได้แก่ 1.การสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชะลอการขายในช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดมากเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาตกต่ำเกินไป โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท 2.ช่วยเหลือดอกเบี้ย เงินกู้ให้สหกรณ์ หรือโรงสีที่เก็บสต๊อกข้าวไว้โดยช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้ 3% 3.ช่วยเร่งรัดส่งเสริมการส่งออกข้าวเพื่อระบายข้าวในประเทศ เพราะฤดูการผลิตหน้าจะมีข้าวออกสู่ตลาดมากกว่าปีที่แล้ว 5%

โดยมติของที่ประชุมวันนี้ยังไม่ถือเป็นที่ยุติ ต้องนำเสนอขอความเห็นชอบต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานอีกครั้งหนึ่งคาดว่าจะประชุมในวันที่ 23 ส.ค.นี้ ก่อนที่จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
 

นอกจากนี้ได้เร่งรัดให้กรมการค้าต่างประเทศเร่งเจรจาในระบบจีทูจีกับจีน ซึ่งจีนยังมี mou ค้างการซื้อข้าวกับไทยอยู่ 280,000 ตัน โดยขอเร่งเจรจาให้รับซื้อให้ครบตามโควต้าโดยเร็วที่สุด รวมถึงขอให้จีนซื้อข้าวหอมมะลิเพิ่มเติมเพราะราคาข้าวหอมมะลิถือว่าแข่งขันได้ในตลาดโลก

สำหรับการประเมินผลผลิตข้าวในปีนี้อยู่ที่ 26 ล้านตันข้าวเปลือก มากกว่าฤดูการผลิตที่ผ่านมา 5% ตัวเลขการส่งออกข้าว 6 เดือนแรกของปี ม.ค-มิ.ย. อยู่ที่ 2.17 ล้านตัน ส่วนเดือน ก.ค. ที่ขออนุญาตส่งออกไว้อยู่ที่ 570,000 ตัน โดยปี 2564 ยังตั้งเป้าการส่งออกข้าวไว้ที่ 6 ล้านตัน