กรมราชทัณฑ์ เร่งปลูกและผลิตแคปซูลฟ้าทะลาโจร

วันที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลา 14.00 นาฬิกา นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจําและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2564 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 262 ราย (พบในเรือนจําสีแดง 213 ราย และพบ ในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 49 ราย) รักษาหายเพิ่ม 399 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อที่ยัง อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 7,057 ราย (กลุ่มสีเขียว 81.5% สีเหลือง 18.1% และสีแดง 0.4%) เป็นพื้นที่ กรุงเทพมหานคร 567 ราย ปริมณฑล 1,941 ราย และต่างจังหวัด 4,549 ราย

นายอายุตม์ กล่าวว่า วันนี้พบเรือนจําสีแดงที่แพร่ระบาดเพิ่ม 3 แห่ง คือ เรือนจําจังหวัด ร้อยเอ็ด ทัณฑสถานบําบัดพิเศษปทุมธานี และเรือนจํากลางพระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้มีเรือนจําสีแดงรวม 32 แห่ง เรือนจําสีขาวที่ไม่พบการระบาดลดลงเหลือ 103 แห่ง และสิ้นสุดการระบาดแล้วจํานวน 7 แห่งคงเดิม มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 41,060 ราย หรือ 84.2% ของผู้ติดเชื้อสะสม 48,744 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 66 ราย คิดเป็นอัตรา 0.1% ของผู้ติดเชื้อสะสมท้ังหมด

สําหรับผู้เสียชีวิตในวันนี้ เข้ารักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์จากการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ซึ่งได้รับการรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และการสังเกตอาการ อย่างใกล้ชิด แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไป มา ณ โอกาสนี้ ท้ังนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนําร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิธีการจัดการศพ ผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย

นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า ในท่ีประชุม ศบค.ยธ. เมื่อเช้าท่ีผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้เกียรติเข้าร่วมประชุมเพื่อมอบนโยบาย โดยได้เน้นย้ํามาตรการป้องกันการ ติดเชื้อในเรือนจําอย่างเคร่งครัด รวมถึงการรักษาผู้ติดเช้ืออย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการใช้ยาฟ้าทะลายโจร ภายใต้คําสั่งของแพทย์ และตามคําแนะนําของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน และลดความรุนแรงของโรค พร้อมกําชับให้ทุกเรือนจําและทัณฑสถาน เร่งปลูกและผลิตยาฟ้าทะลายโจรในทุก ข้ันตอน ตั้งแต่กระบวนการปลูก การเก็บเก่ียว การบด และการผลิตแคปซูลที่ถูกต้องตามหลัก เพื่อให้ทันต่อความ ต้องการและเพียงพอต่อการใช้งานภายในเรือนจําและทัณฑสถาน รวมถึงกับคนท้ังประเทศ