เป็นเรื่องราวที่มีคนสนใจมานานนับเดือน ทำให้คนไทยมีความหวังและสิ้นหวังได้ในคราวเดียว จนถึงตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่า “ดีลไฟเซอร์” ของ นพ.บุญ วนาสิน หรือ “หมอบุญ” ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เคยเกือบเกิดขึ้นจริง หรือเป็นแค่ “วัคซีนทิพย์”??
ซึ่งเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) น.ส.สุวดี พันธุ์พานิช เลขานุการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือถึงกรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อชี้แจงเรื่องการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ที่เป็นเทคโนโลยีแบบ mRNA โดยหลายอย่างดูขัดแย้งกับคำสัมภาษณ์ของ “หมอบุญ” ก่อนหน้านี้
เดี๋ยวเราจะมาย้อนไทม์ไลน์ถึงเรื่องราววุ่นๆ ของ “ไฟเซอร์” ที่ไม่มาตามนัด...
เริ่มจากวันที่ 12 ก.ค.2564 เมื่ออยู่ดีๆ “หมอบุญ” ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” จนกลายเป็นกระแสดราม่ารุนแรง ทำนองว่า กำลังจะซื้อวัคซีนชนิด mRNA จาก “ไบโอเอนเทค” ของเยอรมัน ซึ่งเป็นตัวเดียวกับ “ไฟเซอร์” จำนวน 20 ล้านโดส โดยมีการดีลกับหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งเป็นผู้นำเข้า และสามารถนำเข้ามาได้ภายในเดือน ก.ค.เลย
ระหว่างวันที่ 13-14 ก.ค.2564 “หมอบุญ” ให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ โดยมีรายละเอียดแตกต่างกันไป เช่น วันปิดดีล หรือยอดนำเข้าวัคซีน ที่บางครั้งบอกว่า 20 ล้านโดส แต่บางครั้งก็บอกว่า 10 ล้านโดส (วัคซีนของไบโอเอนเทค 10 ล้านโดส+วัคซีนโนวาแวกซ์ 10 ล้านโดส)
จากนั้นเริ่มมีเพจเฟซบุ๊กออกมาจับพิรุธว่า เรื่องดีล “หมอบุญ” และ “ไบโอเอนเทค” กระทั่งวันที่ 15 ก.ค.2564 ทางสำนักข่าว Reuters รายงานว่า “ไฟเซอร์-ไบโอเอนเทค” ต่างพากันปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการดีลอะไรตามคำกล่าวอ้าง
จนกระแสตีกลับ “หมอบุญ” อย่างหนัก แต่เจ้าตัวยังยืนกรานว่า แผนซื้อเหมือนเดิม แต่สื่อต่างชาติอาจตีความผิด โดยจะเซ็นสัญญานำเข้าวันรุ่งขึ้น (16 ก.ค.2564) เพราะต้องดูรายละเอียดสัญญากว่า 40 หน้า โดยจะนำเข้าล็อตแรก 5 ล้านโดส
กระทั่งวันที่ 16 ก.ค.2564 น.ส.สุวดี เลขานุการบริษัท THG มีหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยืนยันว่า มีการตกลงซื้อวัคซีนจริง แต่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการด้านเอกสาร พร้อมมีการทวิตข้อความ โชว์เช็คหลักฐานจำนวนเงิน 780 ล้านบาท พร้อมเขียนข้อความว่า “โอนไปแล้วค่าาา รูปนี้ถ่ายที่ อภ.ส่วนหุ้นก็ซื้อทั้งปีค่ะ ไม่มีหยุด” แต่ไม่มีการระบุรายละเอียดเพิ่มเติมว่า เป็นจัดซื้อวัคซีน mRNA หรือไม่ และถ้าซื้อจริงเป็นยี่ห้ออะไร
ส่วน “หมอบุญ” ให้สัมภาษณ์หลายสื่อว่า ยังดูรายละเอียดสัญญาไม่แล้วเสร็จ และทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งห้ามไม่ให้พูดอะไรมาก
โดยวันที่ 17 ก.ค.2564 “หมอบุญ” เปิดเผยกับ “คมชัดลึกออนไลน์” ว่า หลังจากนี้ให้หน่วยงานรัฐ (ลับ) เป็นผู้เปิดเผยข้อมูล ที่จะมีการเปิดตัวในเร็วๆ นี้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีหน่วยงานไหนออกมาเปิดตัว
ร้อนจนวันที่ 20 ก.ค.2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องต่อ ก.ล.ต.โดยบอกว่า “มีพฤติการณ์น่าสงสัย เป็นการสร้างกระแสความนิยมในหุ้นของบริษัทฯ ในเครือของตนหรือไม่”
ซึ่งวันเดียวกัน บริษัท “ไฟเซอร์” (ประเทศไทย) และไบโอเอนเทค ได้ลงนามสัญญาร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดส่งวัคซีน 20 ล้านโดส มีแผนกำหนดการส่งมอบในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
ช่วงนั้นเหมือนเรื่องจะเงียบหายไป จนโซเชียลนำไปล้อเลียนว่า เป็น “วัคซีนทิพย์” กระทั่งวันที่ 3 ส.ค.2564 มีข่าวลือว่า “หมอบุญ” เปิดเผยกับสื่อว่า เตรียมนำเข้าวัคซีน mRNA ร่วมกับกระทรวงกลาโหม ซึ่งทางหน่วยงานที่ถูกพาดพิง รีบออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ก่อนที่บริษัท THG จะทำหนังสือถึง ก.ล.ต.ว่า “หมอบุญ” ไม่ได้ให้ข้อมูลกล่าว
และเมื่อวันที่ 4 ส.ค.2564 “หมอบุญ” ยอมรับกับ “เนชั่นออนไลน์” ว่า คงไม่มีทางนำเข้า “ไฟเซอร์” 20 ล้านโดสได้แล้ว เนื่องจากหน่วยงานที่พยายามติดต่อปฏิเสธดำเนินการ เพราะรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
“เมื่อหาหน่วยงานรัฐนำเข้าไม่ได้ ก็เสียเงินค่ามัดจำไปฟรีๆ 3 ครั้งแล้ว แต่ไม่ขอบอกตัวเลข” นพ.บุญ กล่าว
จากนั้น ก.ล.ต.แจ้งให้ THG และ “หมอบุญ” ชี้แจงการเสียเงินมัดจำจำนวน 500-600 ล้านบาท จากการผิดเงื่อนไขของสัญญา เพราะเห็นว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวมีความขัดแย้งกัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิด และอาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น หรือต่อการตัดสินใจลงทุน หรือต่อการเปลี่ยนแปลงในราคาหลักทรัพย์
วันเดียวกัน น.ส.สุวดี เลขานุการบริษัท THG ทำหนังสือถึง ก.ล.ต.ชี้แจงว่า
1.บริษัทฯ ไม่ได้ให้ข้อมูลการทำสัญญา หรือจะทำสัญญาร่วมกับกระทรวงกลาโหม และมีการลงนามความร่วมมือกับองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐ เพื่อร่วมกันนำเข้าวัคซีนจริง โดยจะเปิดเป็นเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้สำนักงาน ก.ล.ต.
2.บริษัทฯ ไม่ได้ใช้เงินสด เงินกู้ หรือทรัพย์สินของบริษัทฯ ในการวางมัดจำหรือค่าปรับมัดจำวัคซีน
3.วัคซีนจำนวน 20 ล้านโดส ที่ได้มีการเจรจากับผู้แทนจำหน่ายแล้วนั้น ยังไม่มีการลงนามสั่งซื้อจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ตามระเบียบของรัฐ แต่บริษัทฯ ยังไม่ละทิ้งความพยายาม โดยจำนวนวัคซีน และระยะเวลาการนำเข้าวัคซีนไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
หลังจากนี้ต้องรอดูว่า เอกสารความพยายามร่วมกับหน่วยงานรัฐ เพื่อนำเข้าวัคซีน mRNA ของ “หมอบุญ” ที่จะมีการปเดต่อ ก.ล.ต.จะมีจริงหรือไม่??