svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

เอาไม่อยู่! ญี่ปุ่นประกาศ "ภาวะฉุกเฉินโควิด-19" เพิ่มอีก 4 จังหวัด

02 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ญี่ปุ่นประกาศเพิ่มจังหวัดชิบะ คานางาวะ ไซตามะ และโอซากา เข้าสู่ภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ร่วมกับกรุงโตเกียวและโอกินาวา หลังตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

การประกาศภาวะฉุกเฉินใน 3 จังหวัดใกล้กรุงโตเกียว ได้แก่ ชิบะ คานางาวะ และไซตามะ รวมไปถึงจังหวัดโอซากา จะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 ส.ค. ขณะที่ภาวะฉุกเฉินในโตเกียวและโอกินาวาจะขยายเวลาออกไปจนถึงวันเดียวกัน จากกำหนดเดิมที่สิ้นสุดในวันที่ 22 ส.ค.

 

ขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังวางแผนที่จะเปิดตัวมาตรฐานด้านการผ่อนปรนข้อจำกัดควบคุมโรคโควิด-19 เนื่องจากความก้าวหน้าในการฉีดวัคซีน ทว่าการระบาดในประเทศยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสิ้นสุดลง

 

ภายใต้ภาวะฉุกเฉินดังกล่าว ญี่ปุ่นเรียกร้องให้สถานประกอบการที่ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือคาราโอเกะระงับให้บริการชั่วคราว ส่วนร้านที่ไม่มีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ควรปิดทำการเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยรัฐบาลจะมอบเงินชดเชยให้ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามข้อกำหนด

 

นอกเหนือจาก 6 จังหวัดข้างต้นแล้ว ญี่ปุ่นยังบังคับใช้ภาวะกึ่งฉุกเฉินในพื้นที่บางส่วนของ 5 จังหวัด ได้แก่ ฮอกไกโด อิชิกาวะ เกียวโต เฮียวโกะ และฟุกุโอกะ โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ (2 ส.ค.) จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมเช่นกัน ซึ่งภาวะกึ่งฉุกเฉินจะมีข้อจำกัดด้านกิจกรรมทางธุรกิจน้อยกว่าภาวะฉุกเฉินเต็มรูปแบบ

 

ภาวะกึ่งฉุกเฉินจะกำหนดให้สถานประกอบการงดให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนร้านที่ไม่มีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ควรปิดทำการเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเช่นเดียวกัน แต่ผู้ว่าการจังหวัดทั้ง 5 แห่งสามารถปรับเปลี่ยนข้อจำกัดได้ตามสถานการณ์

 

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ดูแลตัวเองที่บ้าน รวมอยู่ที่ 18,927 ราย เมื่อนับถึงวันที่ 28 ก.ค. เพิ่มขึ้น 1.8 เท่าจากสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่อัตราการเข้าโรงพยาบาลในจังหวัดโตเกียว ไซตามะ อิชิกาวะ และโอกินาวา อยู่ที่ร้อยละ 50 ขึ้นไป

 

ด้านสมาคมผู้ว่าการแห่งชาติญี่ปุ่น (NGA) เรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงวันหยุดฤดูร้อนและวันหยุดเทศกาลบง (Obon) หากจำเป็นควรตรวจโรคโควิด-19 ก่อนเดินทาง

 

ที่มา: สำนักข่าวซินหัว

logoline