เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 1 สิงหาคม 2564 หน่วยกู้ภัยแพร่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้ตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางมาจากสถานีรถไฟเด่นชัยโดยรถสองแถวสายเด่นชัย-แพร่ มาลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองแพร่ เพื่อจะขึ้นรถทัวร์ไปที่ จ.น่าน โดยมีอาการไข้ ทั้งนี้ผู้โดยสารรายดังกล่าวได้รับการปฏิเสธไม่ให้ขึ้นรถทัวร์ที่จะเดินทางไปที่ จ.น่าน เนื่องจากไม่ผ่านการคัดกรองของสถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองแพร่ และได้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง
ต่อมาหน่วยกู้ภัยแพร่ ได้ตรวจสอบจึงทราบว่า ชายดังกล่าวเดินทางมาจากกรุงเทพฯ และได้ลงที่สถานีรถไฟเด่นชัยแล้วนั่งรถสองแถวมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองแพร่ เพื่อที่จะนั่งรถทัวร์ไปที่ จ.น่าน และทราบชื่อต่อมา คือ นายอัศวิน อินทรรังษีอายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 1 ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เดินทางมาจาก กรุงเทพฯ โดยรถไฟสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ รถขบวนที่ 109 ตู้ที่ 6 ที่นั่งหมายเลข 56 ออกจาก กรุงเทพฯเมื่อเวลา 06.00 น. ถึงสถานีรถไฟเด่นชัยเมื่อเวลา 15.30 น. นั่งรถสองแถวมาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองแพร่ เมื่อเวลา 16.15 น. เพื่อจะเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ จ.น่าน
แต่เนื่องจากมีอาการเป็นไข้ เจ็บคอ และหายใจขัดมา 4 วันแล้ว จึงได้โทรศัพท์มาหาแม่ที่ จ.น่านว่าจะเดินทางกลับบ้าน และรู้ว่าตนเองป่วยเพราะว่าภรรยาและลูกต่างป่วยโรคโควิด-19 เคยขอเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล กรุงเทพฯแต่ก็ไม่ได้รับการตรวจแต่อย่างใด ขณะเดินทางมาที่สถานีขนส่งฯโดยรถสองแถวมีพระนั่งมาด้วยกับผู้โดยสาร กว่า 10 คน
จากการตรวจสอบพบมีพระสองรูป นอนอยู่ใต้ต้นมะม่วงภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองแพร่ ทราบชื่อว่า พระภิกษุวิทยา ศิริโวหาร และพระภิกษุสิงห์โต โตตระกูล ได้เดินทางโดยรถไฟจากสถานีรถไฟพิษณุโลก ลงที่สถานีรถไฟเด่นชัยแล้วนั่งรถสองแถวมาลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองแพร่ เพื่อที่จะต่อรถไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ บ้านแม่พร้าว อ.งาว จ.พะเยา
ต่อมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ได้มีการนำรถแอมบูแลนซ์ และเจ้าหน้าที่มารับนายอัศวิน กลับไปรักษาตัวในโรงพยาบาลน่าน ส่วนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ ได้นำสารเคมีมาพ่นบริเวณหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองแพร่ และเตรียมแจ้งให้ผู้ที่เดินทางโดยรถไฟขบวนดังกล่าวและรถสองแถวเด่นชัย-แพร่ มาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ โรงพยาบาลแพร่
ภาพ/ข่าวโดย สุภัทร แสงดอก / แพร่