สธ.เผย ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ผู้ป่วยให้เร็วที่สุด เพื่อลดอัตราการตาย

วันที่ 30 กรกฎาคม 2564  มีการแถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) 

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การดูแลคนไข้ในระบบกระทรวงสาธารณสุขขณะนี้มีจำนวน 2แสนคน ส่งกลับไปรักษาที่ภูมิลำเนาแล้ว 5หมื่นราย นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้พยายามให้ยาฟาวิพิราเวียร์ให้เร็วที่สุด ในเดือนสิงหาคมมีการสำรองยาไว้กว่า 40 ล้านเม็ด กันยายน 40 ล้านเม็ด ในแต่ละจังหวัดได้รับการแจกจ่ายยาเป็นที่เรียบร้อย 

นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เพื่อก้าวผ่านวิกฤตการติดเชื้อโควิด-19 การรักษาระบบ Home Isolation เพื่อกักตัวที่บ้าน และ Community Isolation จะมีทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุก หรือ CCRT เป็นทีมสนับสนุนเพื่อเข้าไปดูแลประชาชน ในด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต และมีการจัดการคัดกรองและฉีดวัคซีนให้กลุ่มที่เปราะบาง ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ 

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในเดือนสิงหาคมประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มอีก 10 ล้านโดส ซึ่งแบ่งเป็นวัคซีนหลัก Sinovac และ Astrazeneca ที่ขณะนี้เปลี่ยนสูตรการฉีดเป็น SA และปัจจุบันได้รับการบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐฯ 1.5 ล้านโดส เริ่มฉีด 9 ส.ค. จะฉีดให้กับคน 4 กลุ่ม

• บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 700,000 โดส
• ผู้สูงอายุ , 7 โรคเรื้อรัง อายุ 12 ปีขึ้นไป และคนท้อง 12 สัปดาห์ขึ้นไป 645,000 โดส
• ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย , คนไทยผู้เดินทางไปต่างประเทศ 150,000 โดส
• ทำการศึกษาวิจัย 5,000 โดส