ศบค.เผย 5 อันดับอุตฯโดนโควิดหนักสุด ชี้ส่งออกขับเคลื่อนศก.เวลานี้

วันนี้ (30 ก.ค.64) นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย ประจำวันที่ 30 กรกฎาคม ว่า ไทยอยู่ลำดับที่ 44 ของโลก ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 17,345 ราย ติดเชื้อในประเทศ 16,656 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย จากเรือนจำที่ต้องขัง 681 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 549,512 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 578,375 ราย หายป่วยแล้ว 10,678 ราย หายป่วยสะสม 353,744 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 117 ราย เสียชีวิตสะสม 4,585 คน คิดเป็นร้อยละ 0.83% ผู้ป่วยรักษาอยู่ 192,526 ราย ในโรงพยาบาล 74,232 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 18,294 ราย อาการหนัก 4,595 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,012 ราย

ผู้ได้รับวัคซีนฉีดแล้ว 17,0111,477 โดส เข็มที่หนึ่งเพิ่มขึ้น 366,663 ราย สะสม 13,225,233 ราย เข็มที่สองเพิ่มขึ้น 53,485 ราย สะสม 3,786,244 ราย

ผู้ป่วยเสียชีวิต 117 ราย กรุงเทพมหานคร 55 สมุทรปราการ 9 ราย สมุทรสาคร 8 ราย ปทุมธานี 6 ราย นครปฐม 4 ราย ปัตตานี 4 ราย นราธิวาส 7 ราย สงขลา 1 ราย ตรัง 1 ราย ระนอง 1 ราย กาฬสินธุ์ 2 ราย ร้อยเอ็ด 1 ราย นครพนม 1 ราย อุดรธานี 1 ราย สกลนคร 1 ราย สุโขทัย 2 ราย นครสวรรค์ 2 ราย ตาก 2 ราย กำแพงเพชร 1 ราย พิษณุโลก 1 ราย ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 62 รายหญิง 55 ราย ชาวไทย 112 ราย เมียนมา 5 ราย ค่ากลางของอายุคือ 67 ปี (33- 92 ปี) ค่ากลางเวลาวันที่ทราบผลติดเชื้อถึงเสียชีวิต 8 วัน นานสุด 29 วัน เสียชีวิตที่บ้าน 9 ราย กรุงเทพมหานคร 8 รายปทุมธานี 1 ราย

สำหรับผู้เดินทางจากต่างประเทศ รายจากกาตาร์ 1 ราย เดินทาง 7 กรกฎาคม เพศหญิงอายุ 34 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ ผลพบเชื้อไม่มีอาการ (Day 11) ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โรงพยาบาลเอกชนภูเก็ต จากสหราชอาณาจักร 1 ราย เดินทางถึงไทยวันที่ 25 กรกฎาคม เพศชายอายุ 44 ปี สัญชาติอังกฤษ ผลพบเชื้อไม่มีอาการ (Day1) สมุยพลัสโมเดล สุราษฎร์ธานีโรงพยาบาลเกาะสมุย จากสเปน 1 ราย เดินทางถึงไทย 25 กรกฎาคม เพศชายอายุ 34 ปี สัญชาติเยอรมัน ผลพบเชื้อไม่มีอาการ (Day1) สมุยพลัสโมเดล สุราษฎร์ธานี โรงพยาบาลเกาะสมุย จากประเทศมาเลเซีย 3 ราย เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ วันที่ 12 กรกฎาคม เพศชาย 2 รายอายุ 26,33 ปี สัญชาติไทย ผลพบเชื้อไม่มีอาการ 1 ราย มีอาการ 1 LQนราธิวาส โรงพยาบาลยี่งอ วันที่ 14 กรกฎาคม เพศชายอายุ 51 ปี สัญชาติไทย ผลพบเชื้อมีอาการ LQ นราธิวาส โรงพยาบาลยี่งอ

การติดเชื้อในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 7,095 ราย คิดเป็น 43% จังหวัด(77 จังหวัด) 9,558 คิดเป็น 57%  

ทั้งนี้หากใช้เขตสุขภาพจำแนกตามประเภทผู้ป่วยวันที่ 23-29 กรกฎาคม ทางภาคกลางกับภาคเหนือ จะเห็นว่ามีภาพใกล้เคียงกันทั้งผู้ที่ติดเชื้อในพื้นที่และนำเชื้อเข้า จากต่างถิ่นและเดินทางเข้าไปยังจังหวัด ส่วนภาคอีสาน จะเห็นชัด เช่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น จะพบว่าเป็นผู้ที่ย้ายถิ่นกลับไปเช่นเดียวกับ จังหวัดอุดรธานี สกลนคร นครพนม รวมถึง สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ภาคใต้ เช่น จังหวัดนครศรีธรรมราช ระนอง สุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานีพัทลุง เป็นการติดเชื้อในพื้นที่ส่วนใหญ่

นายแพทย์ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานคลัสเตอร์ต่างๆ ของทั้งประเทศ จังหวัดสมุทรปราการ เมืองสมุทรปราการ บริษัทระบบกำลังไฟฟ้า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 ราย จังหวัดสมุทรสาคร เมืองสมุทรสาคร บริษัทยางรถยนตร์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14 ราย โรงงานผลิตภัณฑ์ปลา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13 ราย จังหวัดชลบุรี เมืองชลบุรี โรงงานเครื่องปรับอากาศ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 ราย จังหวัดปทุมธานี คลองหลวง บริษัทยางรถยนตร์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 25 ราย จังหวัดสงขลา สะเดา โรงงานแม่แบบเซรามิกพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13 ราย

ทั้งนี้ที่ประชุมศปก.ศบค. มีการทำเทเลคอนเฟอเรนซ์ วิดีโอออนไลน์ จากผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของทั้งประเทศว่า เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจคงอยู่ได้ตอนนี้ คือการส่งออกโดยภาคอุตสาหกรรม และทำให้เกิดรายได้นำเข้ายังประเทศไทย เราต้องพยายามรักษาระบบการผลิตในส่วนนี้ไว้ นอกจากนี้ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้นำเสนอชุดข้อมูลจากภาคอุตสาหกรรมว่า จากการเก็บข้อมูลตั้งแต่ 1 เมษายนถึง 29 กรกฎาคม 2564 พบว่ามีการระบาดในโรงงาน 518 แห่ง ติดเชื้อ 36,861 คน  ครอบคลุมพื้นที่ 49 จังหวัด โดย 5 อันดับแรก คือ เพชรบุรี 4,464 ราย เพชรบูรณ์ 3,487 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 2,538 ราย สมุทรสาคร 2,496 ราย และสงขลา 2,209 ราย ส่วนอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องนุ่งห่ม โลหะ และอุตสาหกรรมพลาสติก

ตอนนี้กระทรวงอุตสาหกรรมมีระบบตรวจสอบและการดูแลมาตรการต่างๆ  ที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาตรการประเมินตนเองผ่านทางออนไลน์โดยใช้  “ไทยสต็อปโควิดพลัส” ซึ่งมีโรงงานประมาณ 18,005 แห่ง จากทั้งหมด กว่า 64,000 แห่ง โดยพบว่าภาพรวมผ่านเกณฑ์ 12,256 แห่ง หรือร้อยละ 68 และไม่ผ่านเกณฑ์ 5,749 แห่งหรือร้อยละ 31 นอกนี้ยังมีการสุ่มตรวจประเมินโรงงาน 955 โรงงาน ตรวจประเมิน onsits ครบ 100% ตามแผน

นอกจากนี้กรุงเทพมหานคร ได้หารือเรื่องแผนการฉีดวัคซีน เรื่องทีมป้องกันแก้ไขปัญหาโควิด 19 เชิงรุกในชุมชนหรือ CCRT ซึ่งได้แจ้งที่ประชุมถึงความคืบหน้า โดยทีมดังกล่าวทำงานร่วมกัน ทั้งสาธารณสุข ฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เช่น ตรวจสอบหาเชื้อ ฉีดวัคซีน นำผู้ป่วยรักษา รวมถึงการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสไร้ที่พึ่ง โดยมีกว่า 15 หน่วยงานที่ร่วมสนับสนุนการทำงานสำนักงานอนามัย ศบค.จึงต้องขอขอบคุณแทนคนกรุงเทพมหานคร ที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานและช่วยเหลือในเรื่องความทุกข์ยากของภาคประชาชนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน  อย่างไรก็ตามวันนี้ชุดข้อมูลข่าวสารไปอย่างรวดเร็ว เราจะเห็นการรายงานของทั่วทั้งโลกเกิดขึ้นเป็นลักษณะเรียลไทม์ ตอนนี้การแถลงข่าว จะขอปรับเปลี่ยนใช้ในส่วนของเฟสบุ๊กให้มากขึ้น โดยผอ.ศบค. เน้นการสื่อสารช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มากขึ้น ดังนั้นกรมประชาสัมพันธ์ที่ดูแลศูนย์ข้อมูลโควิด-19 และจะมีการปรับแถลงข่าวเป็นวันจันทร์ และวันพฤหัสบดี