วันนี้ (25 ก.ค.2564) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวชี้แจงข้อมูลกรณีแฟนเพจ “สถานีตำรวจภูธรบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ โพสต์ภาพ และข้อความ ระบุ..
"ผู้กำกับโรงพักแห่งนี้ รับโควตาจากกระทรวงสาธารณสุข รับ เอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 3 ฉีดให้ 11 ตำรวจที่ประจำโรงพัก"
ตามที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ว่า การบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแต่ละพื้นที่ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีอำนาจในการประสานขอรับการจัดสรรวัคซีน แต่เป็นอำนาจของ สสจ.ในคณะกรรมการโรคติดต่อของแต่ละจังหวัดนั้นๆ ที่เห็นว่า เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานใดปฏิบัติงานเป็นหน้าด่านเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 เช่น บุคคลากรทางการแพทย์ หรือตำรวจก็ได้
ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ทุกโรงพัก จัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น พาหนะ และชุด PPE ไว้รองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากกรุงเทพฯ ที่ต้องการเดินทางกลับไปรักษาตัวในจังหวัดภูมิลำเนาตัวเอง ในกรณีสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาดรุนแรง จนเตียงภาคสนาม หรือรถตู้ของระบบสาธารณสุขไม่เพียงพอ ก็จะได้ใช้ รถตู้ รถห้องขังของโรงพัก เสริมกำลังขับไปรับ – ส่งตามนโยบายของรัฐบาล
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ชี้แจงว่า สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ก็เช่นกัน ได้เตรียมการไว้ ตำรวจ 11 นาย และอยู่ระหว่างการอบรมจากบุคลากรทางการแพทย์ ในขั้นตอนการปฏิบัติงานที่จะสามารถป้องกันไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานทั้ง 11 คนรับเชื้อโควิด-19 ซึ่งอาจทำให้ สสจ.บุรีรัมย์ มองเห็นการทำหน้าที่เป็นด่านหน้าของตำรวจ 11 นายจากประมาณ 50 นาย จึงจัดสรรให้ได้รับการฉีดวัคซีน
ตนได้เห็นการโพสต์ในเฟซบุ๊คของ สภ.บ้านใหม่ใชยพจน์แล้ว ก็ได้ดำหนิ ผู้กำกับ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ พร้อมสั่งการเร่งโพสต์ชี้แจงให้สังคมเข้าใจตามที่กล่าวมาข้างต้น โดยเฉพาะตามโครงสร้างการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของแต่ละจังหวัด จะขึ้นตรงกับคณะกรรมการติดต่อโรคประจำจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน สสจ.เป็นเลขาฯ ซึ่งมีอำนาจจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข รับมาฉีดให้กับหน่วงานในพื้นที่ ทำให้ตำรวจอยู่ในความบังคับบัญชาของผู้ว่าฯ