ตามข่าวที่ปรากฏมาระยะหนึ่ง “คีย์แมน” ที่ได้รับการวางตัวให้เป็นคนเดิมเกมจัดตั้งพรรคใหม่ ก็คือ “ปลัดฉิ่ง” นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้
ตลอดมามีการเอ่ยชื่อ “พรรคเศรษฐกิจไทย” และ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” โดยเฉพาะพรรคไทยสร้างชาติ ไปพ้องกับวลีที่นายกรัฐมนตรีใช้ปลุกใจคนในชาติให้รวมใจกันสู้ภัยโควิด ทำให้ข่าวลือยิ่งใกล้ความจริง เพราะพรรคพลังประชารัฐที่ตั้งขึ้นมาสานต่องานการเมืองของ ”3 ป.” สู้ศึกเลือกตั้งปี 62 ก็มาจากชื่อนโยบาย “ประชารัฐ” ของรัฐบาล คสช.เช่นเดียวกัน
ที่ผ่านมา “ปลัดฉิ่ง” ไม่เคยปริปากใดๆ กับผู้สื่อข่าว ทำให้ข่าวลือทำงานไปเรื่อยๆ ทั้งข่าวเดินสายทาบทาม “บิ๊กข้าราขการ” หรือ “อดีตข้าราชการน้ำดี” มาร่วมงานกับพรรค เพื่อสร้างเป็นพรรค “เทคโนแครต” ให้เป็นทางเลือกใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย และอาจเป็นฐานการเมืองใหม่ให้กับ “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย
ล่าสุดยังมีข่าวเตรียมผลักดัน “น้องรัก” “ปลัดตุ๋ม” จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “ข้ามห้วย” มานั่งเก้าอี้ปลัดมหาดไทยสืบต่อจากตนเอง แถมยังมีอายุราชการเหลืออีกถึง 4 ปีด้วย
ในยามการเมืองอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ ล่าสุดจึงมีข่าวกระเซ็นกระสายมาจากกระทรวงคลองหลอดว่า จริงๆ แล้ว “ปลัดฉิ่ง” ไม่เคยขยับกรุยทางการเมือง ทั้งให้กับตัวเอง และให้กับผู้ใหญ่คนอื่นด้วย ข่าวที่ออกมาเป็นเพียงข่าวลืม รวมถึงการเตรียมดัน “ปลัดตุ๋ม” จตุพร บุรุษพัฒน์ เข้าวินเป็นปลัด มท. ที่เป็นข่าวใหญ่มาแรงช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจคือรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง หนำซ้ำการย้ายข้ามห้วย ข้ามกระทรวง รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงต้องยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย
แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ คอนเนคชั่นของ “ปลัดฉิ่ง” ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นคนกว้างขวางทุกวงการ ฉะนั้นข่าวล่าสุดที่ออกมา จึงยังไม่ชัดว่าเป็นการปรับท่าทีเพราะสถานการณ์ของรัฐบาลขณะนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก จึงต้องถอยตั้งหลัก หรือว่าแท้ที่จริงแล้วทั้งหมดเป็นเพียงข่าวปล่อยทางการเมือง อ้างชื่อ “ปลัดฉิ่ง” เดินเกม สุดท้ายกาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์