svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

รับกลับมารักษาบ้านเพิ่ม หมอเริ่มล้า คนไข้รอจุดพักคอยนานขึ้น

23 กรกฎาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อุดรธานีเร่งตรวจเชิงรุกโรงงานน้ำตาลตรวจ 697 รายลุ้นรอผลกักตัวทุกคน ผู้ติดเชื้อเพิ่มทั้งในพื้นที่และกลุ่มรับกลับบ้าน การเคลื่อนย้ายรอการรักษานานขึ้น ขณะเดียวกัน หมอ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์เริ่มล้า

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.) อุดรธานี พญ.สุรีรัตน์ วัชรสุวรรณเสรี อายุรแพทย์ โรคติดเชื้อ รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่อุดรธานี จากสถานการณ์ของประเทศยังสูงอยู่ ทำให้ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเดินทางกลับภูมิลำเนาอยู่ โดยอุดรธานีพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 148 ราย เป็นผู้ติดเชื้อมาจากพื้นที่เสี่ยง 137 ราย (เป็นผู้ป่วยยืนยันแล้ว 23 ราย) ทำให้ยอดสะสม 2,324 ราย หายกลับบ้าน 1,077 ราย รักษาตัวอยู่ 1,225 ราย เสียชีวิตสะสม 22 ราย  
สำหรับผู้ป่วยเดินทางกลับมาต่อเนื่องทุกโรงพยาบาลรวมเป็นหนึ่งโดย รพ.ศูนย์อุดรธานี ดูแลผู้ป่วย “สีแดง” และผู้ป่วยในเขต อ.เมือง มีผู้ป่วย 168 ราย เป็นผู้ป่วยใสท่อช่วยหายใจ 13 ราย ใช้เครื่องออกซิเจนแรงดันสูง 23 ราย และดูแลผู้ป่วยสีเขียวที่ศูโฮมฮัก (รพ.สนามแห่งที่ 1) 579 ราย ขณะที่โรงพยาบาลบ้านผือ , เพ็ญ , บ้านดุง , หนองหาน และกุมภวาปี ได้เพิ่มเตียงและขีดความสามารถ ให้สามารถรับผู้ป่วย “สีเหลือง” เพิ่มขึ้น บาง รพ.เปิดหวอดนอกโรงพยาบาล สำหรับ รพ.อื่นก็เพิ่มจำนวนเตียงเช่นกัน   
รับกลับมารักษาบ้านเพิ่ม หมอเริ่มล้า คนไข้รอจุดพักคอยนานขึ้น

นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน เกือบทั้งหมดมาจากพื้นที่เสี่ยง ที่เรามีมาตรการนำเข้ารักษา และกักตัวผู้ที่เดินทางมามา 14 วัน ขณะการติดเชื้อในพื้นที่เมื่อมี ได้เข้าควบคุมไม่ให้ขยายวง อาทิ “คลัสเตอร์โรงงานน้ำตาล” อ.บ้านผือ พบผู้ติดเชื้อ 2 ราย รับเชื้อมาจากงานแต่งงานที่ จ.ร้อยเอ็ด และไปทำงานในแผนกบรรจุภัณฑ์ รง.น้ำตาล จึงทำการตรวจเชิงรุกแบบแรพบิทเทสคนงานในแผนก 34 คน พบติดเชื้อ 17 คน จึงส่งตรวจยืนยัน PCR  
“เมื่อวานท่านผู้ว่า และนายอำเภอ ลงพื้นที่ติดตามทีมสืบสวนควบคุมโรคจาก อ.บ้านผือ น้ำโสม และกุดจับ ระดมลงตรวจหาเชื้อแบบ PCR ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง รวม 697 คน จะรู้ผลตรวจในวันนี้ ระหว่างการรอผลให้ทุกคนกักตัวอยู่ในโรงงาน โดยผู้บริหารจัดให้แยกกักตัวเป็นแผนกในห้องทำงานของตัวเอง และพื้นที่โกดังเก็บสินค้า ส่วนญาติพี่น้องก็นำเอาเครื่องนอน เสื้อผ้า และของใช้ส่วนตัวมาให้ และมี อบต.เข้ามาช่วยดูแลเรื่องอาหาร 3 มื้อ วันนี้จะตรวจหาเชื้อเพิ่ม พนักงาน-ลูกจ้างที่ตกค้าง และครอบครัวญาติพี่น้องผู้ตรวจพบเชื้อพร้อมให้คำแนะนำกักตัวที่บ้าน” 

รับกลับมารักษาบ้านเพิ่ม หมอเริ่มล้า คนไข้รอจุดพักคอยนานขึ้น


นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี กล่าวด้วยว่า “เคสครอบครัวใหญ่เชียงพิณ” พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็น 15 ราย เป็นผู้สูงอายุ 4 ราย เด็ก 5 ราย จากที่พบติดเชื้อคนแรกเป็นหญิงชาว สปป.ลาว มามีครอบครัวที่อุดรธานีมาทำงานเป็นแม่บ้านในตัวเมือง และเมื่อตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงพบในครอบครัวบ้านใกล้เรือนเคียงติด ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่กักตัวอยู่ 21 ราย น่าจะสามารถควบคุมได้ โดยมีข่าวลือเรื่องเป็นพนักงานในห้างสรรพสินค้า และเป็นพนักงานของร้านในตลาดผ้า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด 
รับกลับมารักษาบ้านเพิ่ม หมอเริ่มล้า คนไข้รอจุดพักคอยนานขึ้น

 

รอง สสจ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามว่า อุดรธานียังเดินหน้า “นำลูกหลานอุดรฯกลับบ้าน” เป้าหมายแรก 1,200 คน ผ่านมาแล้ว 4 เที่ยวรวมกว่า 400 คน พรุ่งนี้มีนัดไปรับมาอีก 170 ราย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ป่วย “สีเขียว” มาถึงก็ส่งเข้า รพ.ทันที แม้ว่ามีหลายหน่วยงานในส่วนกลาง ประกาศแผนจัดส่งคนป่วยกลับบ้านแล้วก็ตาม ส่วนเรื่องวัคซีนอุดรฯได้รับต่ำกว่าแผน จากที่แจ้งว่าเดือนนี้เราจะได้ 1 แสนโดสเศษ ถึงวันนี้ได้มา 40,000 โดส ก็อาจจะไม่เป็นตามเป้า ซึ่งจะมีวัคซีนของ อบจ.อุดรธานีมาเสริม สำหรับ “ชิโนฟาร์ม” มีกลุ่มเป้าหมายแล้ว “โมเดอร์นา” กำลังทำรายชื่อเป้าหมาย    
พญ.สุรีรัตน์ วัชรสุวรรณเสรี อายุรแพทย์ โรคติดเชื้อ รพ.ศูนย์อุดรธานี ตอบข้อซักถามว่า คุณหมอทุกท่านที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ตอนนี้ค่อนข้างล้าเราทำงาน ยาวมาตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว มีช่วงพักบ้างคือพฤษภาคม แต่เราก็แบ่งหน้าที่ช่วยเหลือกัน ซึ่งเข้ามาช่วยกันทุกแผนก เช่น ออกจุดฉีดวัคซีน , รพ.สนาม ทุกคนช่วยกันทำให้งานเบาลง แต่ที่ทราบกันก็คือเคสเราเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ต้องยอมรับว่ายังมีบางส่วนที่เรายังทำได้ไม่ดี อย่างเช่นคนไข้รอที่จุดพักคอยนานขึ้น รอเตียงนานขึ้น ในจุดนี้ยอมรับว่ายังลำบากคนไข้อยู่  
“ปัจจุบันมีผู้ป่วยมาเป็นคันรถ เราก็จะดูแลคนไข้ไม่เร็วเท่าที่ควร ต้องรอนานขึ้นทั้งเรื่องรายชื่อที่ได้มาไม่ตรงกัน การรอผลแลป เตียงอาจจะไม่ได้สะดวกสบายเหมือนเมื่อก่อน ทางสาธารณสุขก็พยายามดูแลผู้ป่วยทุกคนอย่างที่สุด แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่เตรียมไว้ อาจจะไม่เพียงพอต่อหน้างาน ส่วนคนไข้ที่เป็นโควิด หรือไม่มีความเสี่ยง ก็อยากให้เข้าใจว่า ตอนนี้การมานอนโรงพยาบาลก็ต้องมีจุดพักคอย รอผล swap ก่อนค่อยได้ย้ายตึก ญาติต้องงดเยี่ยม ต้องฝากของส่งตามจุดต่าง ๆ ก็เป็นความลำบาก อยากให้ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ ว่าเราต้องเซฟคนไข้ทั้งโควิดเอง และไม่เป็นโควิดด้วย รวมทั้งบุคลากรและญาติด้วย”

รับกลับมารักษาบ้านเพิ่ม หมอเริ่มล้า คนไข้รอจุดพักคอยนานขึ้น


 

logoline