svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"แรมโบ้" ซัด "พิธา" วอนอย่าทำตัวเป็นนักการเมืองฉวยโอกาส

23 กรกฎาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"แรมโบ้" เตือน "พิธา" อย่าทำตัวเป็นนักการเมืองฉวยโอกาส ภาพพจน์จะดูตกต่ำยิ่งขึ้น ขอความเป็นธรรมให้"นายกตู่" การไปแจ้งความดาราศิลปิน บางคน เป็นการทำตามหน้าที่ของนายอภิวัฒน์ กรณี”นายสนธิญา” ทำส่วนตัว ทั้งสองกรณีไม่เกี่ยวกับนายกฯ สั่งการ อย่าได้กล่าวหานายกฯ

23 กรกฎาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีมีศิลปินดาราบางคนได้โพสต์ ข้อความดูหมิ่นด้วยการโฆษณา และนายอภิวัฒน์ ขันทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือคตส.ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับมิลลิ นักร้องแรปเปอร์สาว ที่สน.นางเลิ้งตามที่เป็นข่าวนั้น เป็นการทำหน้าที่ของนายอภิวัฒน์ฯในฐานะผู้ช่วยรมต.และประธานคตส.เท่านั้น 

รวมถึงนายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร ได้ไปยื่นหนังสือถึงผบ.บชน.ขอให้ตักเตือนตรวจสอบคนที่ออกมาโพสต์ดูหมิ่นดูแคลนสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง มีบุคคลใดทำผิดกฎหมายหรือไม่นั้น เป็นการทำในสิทธิส่วนตัวของนายสนธิญาเอง ไม่ได้รับคำสั่งจากใคร เฉกเช่นเดียวที่ตนไปร้องทุกข์ดำเนินคดีกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ที่กองปราบปรามฯก็ใช้สิทธิ์ตามหน้าที่ส่วนตัวเช่นกัน

 

"ตนจึงขอเตือนในพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะที่นายพิธาเป็นนักการเมืองรุ่นน้องว่า การสนับสนุนคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในทางที่สร้างสรรค์นั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าสนับสนุนให้คนออกมาโพสต์ในทางดูหมิ่นดูแคลนใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น และยังส่งผลให้สังคมแตกแยก ทำลายขวัญกำลังใจบุคคลากรที่ทุ่มเททำงาน

นายพิธา อย่าใช้วิธีการแบบนี้เพื่อตีกินทางการเมือง สุดท้ายสังคมจะประนามนายพิธาเป็นคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังคนบางคนเหล่านี้ออกมาโพสต์ด่าทอด้อยค่าคนอื่นให้เสียหายด้วยคำหยาบคาย ตามที่เป็นข่าวนั้น นายพิธามีจุดประสงค์ให้สังคมแตกแยกวุ่นวาย หวังเพียงเพื่อล้มรัฐบาลเพราะนายพิธาอยากมาเป็นนายกฯรัฐบาลเสียเองอย่างนั้นใช่ไหม ตนว่า คิดว่าถ้ามีพฤติกรรมให้สนับสนุนให้คนใช้คำหยาบคายเช่นนี้ไม่มีทางที่คนไทยจะยอมรับได้อย่างแน่นอน สังคมไทยไม่ต้องการผู้นำที่ส่งเสริมเยาวชนใช้คำไม่สุภาพหยาบคายเช่นนี้

 

"ถ้าสมมติลูกหลานนายพิธา ไปใช้คำหยาบคายกับคนอื่นบ้าง หรือมีคนอื่นมาใช้คำนี้กับนายพิธาบ้างนายพิธาจะยอมรับได้ใช่ไหม  ทั้งที่ปู่ย่าตาตายสั่งสอนมาว่าอย่าให้คำหยาบคายนี้ไปพูดจาด่าใคร นายพิธาเองก็คงถูกผู้ปกครองอบรมสั่งสอนมาเช่นนี้เหมือนกันมิใช่หรือ หรือว่าไม่เคยมีใครอบรมสั่งสอนมาว่า คำเหล่านี้ เป็นคำที่ไม่เหมาะสม ไม่สุภาพอย่างยิ่ง คนในสังคมไทยรับไม่ได้เลย

   

ถ้านายพิธาคิดว่าเป็นคำสุภาพเป็นคำเหมาะสม นายพิธาชอบคำหยาบคายคำนี้ เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งนายพิธาหรือผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่หาเสียง ตนจะได้ไปเชิญชวนป่าวประกาศ บอกให้พี่น้องประชาชนทั่วทุกพื้นที่ ที่นายพิธาและคณะไปหาเสียง ช่วยกันตะโกนเรียกคำนี้ ใช้เรียกชื่อนายพิธาและผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล ถ้าพวกนายพิธาชอบคำนี้และคิดว่าเป็นคำสุภาพในความคิดของนายพิธา จะได้ให้พี่น้องประชาชนจัดให้ตามความต้องการ ต้องการเช่นนั้นใช่ไหม

 

ถ้านายพิธายังไม่เข้าใจกฎหมายก็คงเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้ ตนจึงขอแนะกฎหมายสิทธิขั้นพื้นฐานให้นายพิธาเข้าใจสักนิดว่า"การแสดงสิทธิเสรีภาพทางความคิดผ่านโซเชียล ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน แต่ในการใช้สิทธินั้นต้องไม่ไปกระทบสิทธิของผู้อื่น ไม่ใช่อ้างว่ามีสิทธิตามกฎหมายแล้วจะพูดอะไรก็ได้ ในความผิดที่เกิดขึ้นแยกเป็น 2 ส่วน ถ้าไปพาดพิงถึงบุคคลใดในเรื่องความผิดต่อส่วนตัว ก็เป็นเรื่องของผู้เสียหายนั้นๆ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ที่กล่าวถึง ยกเว้นถ้าพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว เป็นความผิดอาญาต่อแผ่นดิน บุคคลทั่วไปหรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ทันที ข้อกฎหมายเหล่านี้นายพิธาควรไปศึกษาใส่สมองบ้าง

 

"ตนจึงขอร้องนายพิธาควรหยุดสนับสนุนหรือยุยงให้คนออกมาสร้างความแตกแยกในสังคมไทย สิ่งที่ช่วยประชาชนที่กำลังเดือดร้อนได้รับความทุกข์จากโควิดร้าย ขณะนี้คือ ขอให้ทุกคนลงมือช่วยกัน จับมือกันเดินไปข้างหน้าเพื่อเอาชนะสงครามโควิดไปด้วยกัน หันมาพูดสร้างสรรค์ให้กำลังใจกันและกัน ให้ก้าวผ่านวิกฤตไปให้ได้ ประเทศไทยเป็นของพวกเราทุกคนมิใช่หรือ นายพิธาโปรดช่วยเก็บกิเลสความอยากมีอยากได้ในอำนาจ อยากมีตำแหน่งใหญ่โตพักเอาไว้ก่อน หันหน้ามาช่วยประชาชนคนไทยให้ปลอดภัยก่อน นี่คือสิ่งที่ นายกฯและคนไทยส่วนใหญ่ต้องการมากที่สุด นายพิธาและส.ส.ก้าวไกล ควรมีจิตสำนึกทำความดีได้แล้ว"

 

logoline