ศรีสะเกษนิมนต์พระสวดศพโควิด-19 ติดเชื้อเสียชีวิตรายที่ 9 เผากลางดึก
น้องสาว กับหลาน ต้องเป็นธุระกราบนิมนต์พระคุณเจ้ากลางดึก มาสวดศพลุง ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 มาจากกรุงเทพมหานคร เสียชีวิตตอน 19.00 น. และยังพบว่า เชื้อได้ติดลุกลามติดกันทั้งครอบครัว รวม 7 คน รวมทั้งหลาน 1 ขวบเศษ และในลูกสะใภ้ที่กำลังตั้งท้อง 5 เดือนด้วย
22 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลานสาว 2 คน และทั้งน้องสาว 2 คน ของคุณลุง อายุ 62 ปี ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ แจ้งมาว่าบัดนี้คุณลุงได้เสียชีวิตลงด้วยอาการที่สงบแล้ว ขอให้ติดต่อประสานกับมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน เพื่อนำศพออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากห้องเย็นที่จะจัดเก็บศพไว้ของโรงพยาบาลขณะนี้ตู้เต็มแล้ว เพื่อนำศพไปฌาปนกิจทันที เนื่องจากคุณลุงวัย 62 ปี เสียชีวิตเพราะติดเชื้อโรคโควิด-19
พร้อมประสานพระคุณเจ้าไว้ที่วัด เพื่อให้รอในการสวดส่งดวงวิญญาณ หวั่นว่าหากไม่ประสานไว้ก่อน พระคุณเจ้าจะจำวัดเสียก่อน ซึ่งภายหลังจากได้รับแจ้ง ทั้งน้องสาว และหลาน ก็ได้เดินทางมาที่วัดในตัวเมืองศรีสะเกษ ครู่ใหญ่มูลนิธิฯ ก็ได้นำรถส่งศพวิ่งเข้ามาถึงวัด นำโลงศพลงจากรถและนำขึ้นไปบนเมรุทันที และจัดเลื่อนเข้าเตาเผา โดยที่ลูกหลานก็ได้เพียงการจุดธูปฝากเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำขึ้นไปส่งเข้าเตาเผาให้ด้วย เพื่อเป็นการบอกกล่าวดวงวิญญาณคุณลุง ซึ่งนับว่าเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 9 ของจังหวัดศรีสะเกษ ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคโควิด -19 นี้
โดยหลานได้เล่าให้ฟังว่า คุณลุง ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ที่อำเภอบึงบูรฬ์ จังหวัดศรีสะเกษ และพอทราบว่าตนกำลังป่วยเจ็บหัวใจก็เลยเดินทางเข้ากรุงเทพ เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว เพื่อไปอาศัยอยู่กับลูกๆ เพื่อที่จะได้เข้ารับการตรวจโรคหัวใจ และเข้ารับการรักษา แต่ช่วงขณะที่รออยู่ได้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จากลูก และยังพบว่าคนในครอบครัวพากันติดเชื้อโควิด-19 ด้วยกันทั้งบ้าน ทั้งหมดทุกคนในครอบครัว รวม 7 คน ที่สำคัญมีหลานที่อายุพึ่ง 1 ขวบเศษ ติดเชื้อด้วย แถมลูกสะใภ้ที่กำลังตั้งท้องได้ 5 เดือน ก็ติดเชื้อด้วย จึงได้ตัดสินใจประสาขอกลับมาบ้านที่อำเภอบึงบูรฬ์
ซึ่งได้นำรถตู้ของตนเอง ลูกชายเป็นคนขับเดินทางกันมาเอง ทั้ง 7 คน เดินทางมาถึงค่ำของวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ก็ได้เข้ารับการกักตัวรอพักคอยที่ที่ว่าการอำเภอบึงบูรฬ์ รุ่งเช้าพยาบาลก็นำรถตู้มารับคุณลุง เข้าโรงพยาบาลบึงบูรฬ์ก่อน เพราะอาการหนักสุด จากนั้นก็ส่งต่อมาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ด้วยการใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ และคุณลุง ก็หมดลมเสียชีวิตเมื่อเวลา 19.00 น.ของเมื่อวาน ส่วนครอบครัว 6 คน มารับศพไม่ได้ เพราะอยู่ระหว่างเข้ารับการักษาตัว ที่โรงพยาบาลบึงบูรฬ์ จากการติดเชื้อโรคโควิด ได้แต่ขอให้น้อง และหลาน ถ่ายรูปส่งไปให้ดูศพพ่อ ตอนที่นำมาเผากลางดึกทางโทรศัพท์แทน และจะได้เก็บกระดูกในตอนเช้า เพื่อนำไปเก็บไว้ที่บ้านก่อน รอลูกๆ หายจากการรักษาตัวให้ดีก่อน จึงจะได้คิดในการบำเพ็ญกุศพคุณพ่อ ต่อไป
โดย - พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์