เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง” รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล นักวิชาการด้านกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความ ถามถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ทำอะไรอยู่ในขณะที่เกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในข้อความระบุว่า
“จดหมายถึงผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ในฐานะของคนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ และได้เฝ้ามองถึงสถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัสมาอย่างต่อเนื่อง ผมรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่าในท่ามกลางสถานการณ์ซึ่งคนทั่วไปต่างตระหนักว่าเรากำลังต้องเผชิญหน้ากับปัญหานี้อย่างหวาดหวั่น ทางผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ทำอะไรอยู่ครับ
นับตั้งแต่การประกาศปิดแคมป์ก่อสร้างที่กรุงเทพฯ เมื่อปลายเดือนมิถุนายน ก็รู้กันโดยแทบไม่ต้องใช้สมองคิดเลยว่าคนจำนวนไม่น้อยจะเดินทางกลับบ้านของตนเองในต่างจังหวัด และเชียงใหม่ก็คงเป็นหนึ่งในจังหวัดเหล่านั้น แต่นับตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้ก็ไม่ได้มีนโยบายหรือแนวทางอันชัดเจนจากจังหวัดเชียงใหม่ว่าจะรับมือกับปัญหานี้ในลักษณะใด
เมื่อเวลาผ่านไปเกือบสองอาทิตย์ ตัวเลขของผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนมากขึ้น แต่ก็น่าประหลาดใจเป็นอย่างมากที่บรรดาผู้คนบนหอคอย (ที่กินภาษีประชาชน) ก็ยังคงสงบเงียบราวกับว่าไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงอันใดเกิดขึ้น
เป็นที่ชัดเจนว่าถ้าเมื่อไหร่ที่การแพร่กระจายเพิ่มมากขึ้นก็จะติดตามมาด้วยการปิดเมือง ปิดร้านค้า ปิดโน่น ปิดนี่ วิธีการเช่นนี้ดูจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับข้าราชการ แต่สำหรับประชาชนหาเช้ากินค่ำ นี่กำลังจะเป็นวิบากกรรมอีกรอบหนึ่ง ทั้งที่รอบก่อนหน้าก็สร้างความวิบัติให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางอย่างมาก
อย่าพูดถึงเรื่องตั้งด่าน หรือลงแอฟ CM ชนะเลย ก็เห็นๆ กันอยู่ว่ามันหละหลวมขนาดไหน พิมฐา อนาถา ก็เดินทางเตร็ดเตร่กันได้อย่างสบายใจทั่วเมืองมาแล้ว ไอ้ที่ไปแจ้งความเขามันก็ปลายเหตุครับ ควรต้องจัดการกับต้นเหตุและวางมาตรการในการรับมือที่มันรัดกุมมากขึ้น
ถ้าคิดอะไรไม่ออก ก็ลอกการบ้านจากจังหวัดอื่นๆ ที่เขามีวิธีการในการรับมือที่มีประสิทธิภาพมาก็ได้ ก็เข้าใจอยู่ว่าต่อให้สร้างผลงานที่ดีต่อประชาชนมากอย่างไรก็ไม่เท่ากับทำให้รัฐบาลเขาพอใจ แต่อย่างน้อยก็ควรเห็นแก่ชีวิตของผู้คนที่ต้องสูญเสียไปในห้วงเวลานี้บ้าง ขอเถอะครับ อย่าให้ต้องสาปส่งด้วยถ้อยคำที่หยาบคายเลย เพราะอยากจะเก็บไปใช้กับรัฐบาลมากกว่า//สมชาย ปรีชาศิลปกุล//7 กรกฎาคม 2564