6 กรกฎาคม 2564 คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร มีมติให้แจ้งความดำเนินคดีกับปกปิดข้อ ผู้ป่วยโควิด-19 รวม 5 ราย โดย 2รายแจ้งความเอาผิด คือผู้ติดเชื้อโควิด -19 เป็นชายอายุ 56 ปีเดินทางมาจากพื้นที่เสียง เขตดินแดง กทม.และชายอายุ 20 ปี เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง กทม. เนื่องจากบุคคลทั้ง 2 ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคไม่ครบถ้วน เป็นการปกปิดข้อมูล แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ความผิดฝ่าผืนพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 34 การฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฝ่าฝืนประกาศจังหวัดมุกดาหาร มาตรเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดมุกดาหาร(ฉบับที่ 61) ลงวันที่ 29 มิถุนายน 64
ส่วนอีก 2 รายเป็นชายอายุ40ปีและหญิงอายุ47ปี แจ้งความเอาผิดในฐานที่เป็นเจ้าบ้าน ที่ไม่แจ้งข้อมูลอันเป็นจริงต่อ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ คือพนักงานควบคุมโรค ผู้นำชุมชนหรือเจ้าที่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอันเป็นเหตุต้องสงสัยในการปกปิดข้อมูล พนักงาน อันเป็นความผิดฝ่าผืนพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 31(1)ประกอบ4
รายสุดท้ายเป็นหญิงอายุ 28 ปี ได้ทำการโพสต์ด่าทอเจ้าที่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยถ้อยคำหยาบคายซึ่งเจ้าที่ได้ทำการแจ้งผิดกฎหมาย มาตรา 328 ความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอนิคมคำสร้อย เปิดเผยว่าการดำเนินคดีในครั้งนี้มีการดำเนินคดีรวมทั่งหมด 5 รายซึ่งแยกแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะกรณีที่ดำเนินคดีกับเจ้าของบ้านหรือเจ้าบ้านที่ไม่รับผิดชอบเนื่องจากมีบุคคลที่มาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วไม่ยอกแจ้งกับเจ้าที่ ที่มีส่วนข้องโดยมี 1รายที่เป็นเจ้าบ้านมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยใหญ่บ้านซึ่งตอนนี้ได้ดำเนินการแจ้งความแล้วนั้นต่อไปก็จะเป็นขั้นตอนการสอบทางวินัยด้วย
สำหรับสถานการณ์การระบาดระลอก 3 (เมษายน 64) วันนี้ (5 กรกฏาคม 2564) จังหวัดมุกดาหารมีผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 95 ราย ตรวจยืนยันในจังหวัด 70 ราย ตรวจยืนยันพบเชื้อต่างจังหวัดกลับมารักษา 25 ราย รักษาหายแล้ว 38 ราย เสียชีวิต 1 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 13 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนาม 43 ราย
ข่าวโดย - แสวง รูปดี