
วันนี้(1พ.ค.)หนุ่ย หรือนายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ เจ้าของรายการและเว็บไซต์แบไต๋ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ตัดพ้อระบบราชการ โดยระบุว่า"ผมยังคงเป็นอาชญากร"
จะโพสต์ไว้ก่อนนอนแล้วจะยังไม่กลับมาเปิดดู จนกว่าพรุ่งนี้จะเช้านะครับ
แต่จะตั้งคำถามไว้ก่อนหลับไปว่า
"ถ้าระบบคอมพิวเตอร์ของราชการไทยไม่อัปเดตขนาดนี้ ? #เราจะอยู่กันอย่างไร ต่อไปได้ครับ ?
*เพราะมันจะกระทบถึงทุก ๆ เรื่องที่สำคัญในประเทศนี้ โดยเฉพาะเรื่องการลงทะเบียนฉีดวัคซีนที่กำลังจะมาถึง อย่าลืมนะครับว่ามันต้องฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 21 วันเป๊ะ ๆ และมันต้อง "จอง" เข้าไปในระบบด้วย ความแม่นยำจำเป็นมาก ๆ เพราะนั่นหมายถึงชีวิตผู้คน
เรื่องของผมคืนนี้เกิดขึ้นจาก :
มีหน่วยงานราชการหนึ่งดึงตัวผมเข้าไปเป็นกรรมการเพราะเห็นในความถนัดของผมตรงกับภารกิจ ผมเป็นกรรมการให้ไปแล้ว 3 ปีจนครบวาระ (ตอนนั้นก็ว่าจะพิ่วแล้วครับ) พอประธานบอร์ดชุดใหม่มา ท่านก็ขอให้ผมเป็นต่ออีก 1 วาระ ซึ่งก็เป็นไปตามระเบียบ
วันนี้พอยื่นเอกสารจะต่อกัน (หลังประชุมไปแล้วหลายนัด) เจ้าหน้าที่ไปสืบค้นประวัติอาชญากรรม แล้วพบว่าผมยังมีรายชื่อว่ายังเป็นอาชญากร ????
ทุกคนคงสงสัยผมก็สงสัย ???
ทุกคนจำคดีหมิ่นประมาทว่าด้วยการโฆษณา ตอนที่ผมและคุณภูริ พยายามให้ข้อมูลเพื่อปกป้องผืนป่าเกาะนาคาน้อย จังหวัดภูเก็ตได้ใช่ไหมครับ ? ให้ปากคำกันอยู่นาน และสุดท้ายอัยการจังหวัดภูเก็ตก็สั่งไม่ฟ้อง เพราะมองว่าผมและคุณภูริคือพลเมืองที่มีหน้าที่ช่วยกันดูแลรักษาป่าอันเป็นทรัพย์สินของประเทศชาติ (ผู้ฟ้องถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ์แล้วด้วย)
เรื่องนี้จบไปแล้วประมาณ 3 ปีจากปากคำเฟซบุ๊กที่บันทึกทุกสิ่งในชีวิตไว้
พอเอกสาร (ภาพแรก) แสดงว่าผมยังเป็น "อาชญากร" ในข้อมูลคอมพิวเตอร์ของกองทะเบียนประวัติอาชญากร (http://www.criminal.police.go.th) ผมก็ถูกตั้งคำถามโดยหน่วยงานที่ผม "ได้รับเกียรติ" ไปร่วมงานด้วย
จะเรียกว่า "อาย" ก็คงไม่ใช่ แต่เรียกว่า "อดสู" จากความสามารถด้านการอัปเดตข้อมูลของราชการ เราจะอยู่กันอย่างไร ? ถ้าทุกอย่างเชื่องช้า ตกหล่น ไม่ทันเหตุการณ์ และยัง "ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต"
..นึกถึงเวลา "ข้อมูลใช้จ่ายบัตรเครดิตผิดพลาด" โดยที่เราไม่รู้ตัว .. เราจะพบว่า Call Center ของบริษัทเอกชนต่าง ๆ เขาจะรีบโทรมาแจ้ง โทรมาตรวจสอบ แสดงความห่วงใยโดยการ "ปรับยอดให้ถูกต้อง" เพื่อให้เราไม่ต้องจ่ายเกิน หรือจ่ายไปก่อน เขาระมัดระวังแทนเรานะ
ผมในฐานะผู้เสียภาษีเงินได้ ทั้งประเภทบุคคลและนิติบุคคลมาเป็นเวลานาน (ผมจะไม่พูดทวงภาษีนะครับ ไม่ใช่นิสัยผม) ภาษีก้อนล่าสุดที่ผมเพิ่งจ่ายไปเมื่อวันพุธ มันมากกว่า ทุกบริษัท ทุกบริการ ทั้งปีที่ผมเคยอุดหนุนมาเลยนะ แต่ผมก็ยินดีจ่าย เพราะถือหลักการ "อยู่หมู่บ้านเรายังจ่ายส่วนกลาง การอาศัยอยู่ในประเทศไหนเราก็ต้องจ่ายภาษี" มันเป็นหลักการสากล เราเลือกแล้วที่จะอยู่กันเป็นรัฐ เราจึงไม่ควรปั่นเบลอแบบคนเห็นแก่ตัวหรือคนโกง
มันเป็นไปได้ไหมล่ะ ? ที่ "ราชการ" ผู้ซึ่งมีเราเป็นลูกค้าแสนดี จะ เอาใจใส่ ดูแล แก้ไข ให้ถูกต้อง เป็นธรรม และทันเวลา ไม่ใช่เอาความล่าช้ามาทำให้ลืม ๆ กันไป พอค้นเจอแล้วก็ร้องอุ้ย!
แบรนด์ที่ดี เขาจะมี CRM (บริหารความสัมพันธ์ลูกค้า) คอยระมัดระวังไม่ให้ความสัมพันธ์ลูกค้าเสียหาย เจอลูกค้าบ่นอะไรไม่ดี เขาจะร้อนรน จะมีคนคอยเคลียร์ความเข้าใจ คอยแก้ไขความรู้สึกลูกค้า เพื่อพวกเขาจะได้อยู่รอดปลอดภัย การงานมั่นคง สืบไป
แต่กับ "แบรนด์ราชการ" ที่เสียหายทุกวันบนหน้าสื่อ หรือบนหน้าชา ๆ ของประชาชน ไม่ทำ CRM บ้างล่ะครับ ???
.มันง่ายมากเลยนะ ก็แค่ "ใส่ใจกับงาน" เอง พวกเราก็รู้สึกดีกับคุณได้แล้วล่ะ
หรือจริง ๆ แล้วไม่มีใครใส่ใจอะไรกับเราอยู่เลย ?
ไปนอนก่อน จะฝันว่าพรุ่งนี้ประเทศไทยดีขึ้น