จับแล้ว!! คนกระทืบป้าชาวเอเชีย ที่นิวยอร์ก

ตำรวจเปิดเผยว่าชายคนนี้ชื่อนายแบรนดอน เอลเลียต วัย 38 ปี โดยในวิดีโอที่แพร่หลายไปทั่วประเทศ เขาเตะผู้หญิงที่กำลังจะไปโบสถ์ที่ท้อง จนเธอลงไปกองกับพื้น จากนั้นก็กระทืบเธอซ้ำอีกหลายครั้งเมื่อวันจันทร์
เอลเลียตถูกนำตัวขึ้นศาลในวันพุธ ในข้อหาทำร้ายร่างกายโดยไม่จงใจสำหรับอาชญากรรมแห่งความเกลียดชัง 2 ข้อหา และอีก 1ข้อหาเกี่ยวกับการจงใจพยายามทำร้ายร่างกายสำหรับอาชญากรรมแห่งความเกลียดชัง
ไซ แวนซ์ อัยการเขตนิวยอร์ก บอกว่า "นายเอลเลียตเตะและกระทืบคุณแม่วัย 65 ปีอย่างไร้ความปราณีหลังจากที่บอกว่าเธอไม่ควรมาอยู่ที่นี่ มันไม่ควรจะมีพื้นที่สำหรับการกระทำที่โหดร้ายของการต่อต้านชาวเอเชียในนิวยอร์ก"
อัยการเพิ่มเติมว่าสำนักงานของเขามีคดีและการสอบสวนมากกว่าหนึ่งโหลเกี่ยวกับเหตุการณ์ความเกลียดชังต่อสมาชิกของชุมชนชาวเอเชียอเมริกันแปซิฟิก นับตั้งแต่ต้นปี
กรมตำรวจนิวยอร์กบอกว่าหน่วยงานอาชญากรรมแห่งความเกลียดชังได้มองหาผู้ต้องสงสัยรายนี้ตั้งแต่บ่ายวันจันทร์ และพบตัวเอลเลียตผ่านการสอบสวน ที่ก็รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและเบาะแสที่ได้รับจากชุมชน เอลเลียตซึ่งถูกทัณฑ์บนตลอดชีวิตหลังจากรับโทษจำคุกในข้อหาฆ่าแม่ของตัวเอง ถูกจับโดยไม่มีการขัดขืนใด ๆ ที่บ้านพักของเขาในนิวยอร์กซิตี้เมื่อวันอังคาร

ขณะนิวยอร์กไทม์ส ระบุว่าเหยื่อของการโจมตีคือวิลมา คารี ผู้อพยพจากฟิลิปปินส์ หลังจากที่ถูกทำร้ายร่างกาย มีรายงานว่าเธอมีปัญหากระดูกเชิงกรานร้าว
รายงานเกี่ยวกับอาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเพิ่มขึ้นในช่วงที่โควิด -19 ระบาด อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มักเรียกโคโรนาไวรัสว่า "ไวรัสจีน" และ "โรคระบาดจีน"
อาชญากรรมดังกล่าวเพิ่มขึ้น 149 % ในปี 2563 ใน 16 เมืองใหญ่เมื่อเทียบกับปี 2562
ความกังวลเกี่ยวกับอาชญากรรมของความเกลียดชังต่อคนเชื้อสายเอเชียทวีมากขึ้นเมื่อผู้หญิงเอเชีย 6 คนถูกยิงเสียชีวิตในเดือนนี้ที่สปาในแอตแลนตา ชายอายุ 21 ปีถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม แต่ตำรวจยังไม่ได้ระบุแรงจูงใจ
ขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้ประกาศมาตรการตอบโต้ความรุนแรงต่อชาวเอเชียในสหรัฐ ซึ่งก็รวมถึงการนำเงิน 49 ล้าน 5 ดอลลาร์จากกองทุนบรรเทาทุกข์โควิด -19 มาใช้สำหรับโครงการของชุมชน เพื่อที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ในการโจมตีเมื่อวันจันทร์ วิดีโอยัแสดงให้เห็นภาพภายในล็อบบี้ของอาคารแห่งหนึ่งที่มีผู้เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่ได้พยายามช่วยผู้หญิงคนนี้ รวมถึงชายคนหนึ่งที่ปิดประตูหน้า ขณะที่คนที่ก่อเหตุเดินจากไป เรื่องนี้ทำให้ Brodsky Organization ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารอาคาร ได้สั่งพักงานพนักงานสองคน และกำลังตรวจสอบการตอบสนองต่อการโจมตี

ด้านนายบิล เดอบลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กบอกว่า" เป็นเรื่องที่น่าสยดสยองเมื่อได้เห็นมีคนยืนอยู่ตรงนั้น และหันหน้าหนี แทนที่จะพยายามแทรกแซงรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง"
ขณะที่ตำรวจนิวยอร์กก็กำลังตรวจสอบการโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบนรถไฟใต้ดิน ต่อชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นชาวเอเชียจนเขาหมดสติไปหลังจากที่ถูกรัดคอ ท่ามกลางสายตาของผู้โดยสารจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีการทำอะไรเพื่อช่วยเหลือเขาเช่นกัน