วันที่26 มกราคม 2564 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกให้สัมภาษณ์ตอบโต้กรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า โพสต์ทวิตเตอร์ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่ายึดอำนาจเป็นกบฎผิดมาตรา113 โดยกล่าวว่า
นายธนาธร น่าจะปรึกษา นายปิยบุตร แสงกนกกุล มือกฎหมายใหญ่ที่อยู่ข้างกายเสียก่อนนะว่า การรัฐประหารของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความผิดตามมาตรา113 และรัฐธรรมนูญมีข้อยกเว้น การกระทำดังกล่าว
"หากนายธนาธร ไม่บิดเบือน ปิดหูปิดตาตัวเอง ย่อมทราบว่า เหตุผลในการยึดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ นั้นเพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ บริหารงานผิดพลาดเกิดการทุจริต และสร้างความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดินและมีประชาชนกำลังออกมาขับไล่มากมายและมีอีกฝ่ายที่ออกมาสนับสนุนจนอาจจะนำสู่ เหตุการณ์รุนแรงที่คนไทยสองฝ่ายมีการปะทะกันจนแผ่นดินนองเลือดได้ ขืนปล่อยให้บริหารประเทศต่อไปแค่วินาทีเดียวประเทศชาติจะย่อยยับไม่เหลืออะไรเลย บ้านเมืองจะพังพินาศเสียหายย่อยยับ หากนายธนาธร ศึกษาข้อมูลให้ดี นายธนาธร จะต้องขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำรัฐประหาร เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนและรักษาชีวิตเลือดเนื้อให้กับคนไทยที่กำลังขัดแย้งกันอย่างรุนแรง นำมาสู่ความสงบสุขในบ้านเมืองและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายสุภรณ์กล่าวด้วยว่า นายธนาธร ไม่ต้องเบี่ยงเบนประเด็น กรณีที่ ทีมกฎหมายกรรมผู้ช่วยรัฐมนตรีฯกระทรวงดิจิตอลฯไปแจ้งความดำเนินคดีตามมาตรา112 เพราะนายกฯบอกแล้วว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ใครทำผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดีทุกคนไม่มียกเว้น แต่นายธนาธร ก็ยังทำผิดกฎหมายซ้ำซาก จึงถูกดำเนินคดี ไม่ใช่เป็นการใช้มาตรา112 ปิดปากคนเห็นต่าง แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินคดีก็จะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มาตรา 157 ดังนั้นบ้านเมืองมีขื่อมีแปรไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน นายธนาธรอย่าเอาความผิดพลาดของตัวเองมาเป็นอารมณ์อาฆาตมาดร้ายคนอื่น"
"หากนายธนาธรมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องกังวล เพราะศาลท่านให้ความยุติธรรมกับทุกคน เว้นแต่ นายธนาธร จะมีอาการหนาวสั่นหวาดผวากลัวติดคุก จนกระทั่งกินปูนร้อนท้อง ออกมาโวยวายนายกฯ นิสัยจอมอาฆาตพยาบาทที่ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการทำผิดกฎหมายของตนเองและครอบครัวที่ได้ทำผิดอะไรไว้นายธนธร รู้แก่ใจดี อย่าทะนงตัวเองมากเกินไป ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายและกฎแห่งกรรมที่ตัวเองทำผิดไว้" นายสุภรณ์กล่าว