หาเสียงโค้งสุดท้าย อบจ.พิจิตร ดุเดือด
วันที่ 14ธันวาคม 2563 ร.ต.อ.สุชีพ จาดย่านขาด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิจิตรเปิดเผยว่า มาตรการความปลอดภัยเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 นั้น ทางกกต. พิจิตรได้ตระหนักถึงความสำคัญในความปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ของผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง แม้กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นยังไม่ได้บัญญัติให้มีมาตรการใดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมเตรียมรับมือไว้อย่างรัดกุม
สำหรับจังหวัดพิจิตร มีหน่วยเลือกตั้ง 1,020 หน่วย โดยทาง กกต. จัดหน่วยเลือกตั้งโควิด-19 อยู่ในหน่วยด้วย โดยแยกให้มีเจ้าหน้าที่คอยวัดอุณหภูมิหากใครเป็นไข้ หรือมีอุณหภูมิเกินที่กำหนดจะมีเจ้าหน้าคอยดูแล โดยให้ไปลงคะแนนที่หน่วยโควิด-19 จากนั้นจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทางฝ่ายปกครองมารับไป เพื่อสอบสวนโรคต่อไปเพื่อป้องกันโควิดระบาด
นอกจากนี้ในช่วงของการหาเสียงโค้งสุดท้ายขณะนี้มีการแข่งขันกันดุเดือดมาก เนื่องจากมีเรื่องของเรียนเข้ามาแล้วกว่า 10 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการซื้อเสียง-จดรายชื่อ-จดหมายเลขบัตรประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเรื่องการใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งกกต.พิจิตรกำลังอยู่ระหว่าง ลงพื้นที่รวบรวมหลักฐาน เพื่อจับตัวผู้กระทำผิด พร้อมกันนี้ ีตนได้สั่งการให้ชุดเคลื่อนที่เร็วและชุดผู้ตรวจการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ
นายมาโนช วัฒนประสิทธิ์ ผู้สมัครนายก อบจ.พิจิตร หมายเลข4 คณะทีมก้าวหน้า กล่าวว่า หลังจากที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าเดินทางมาช่วยหาเสียงในพื้นที่ จ.พิจิตร ซึ่งประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงน่าจะเป็นเรื่องของการซื้อเสียงในพื้นที่ ยิ่งช่วงของโค้งสุดท้าย มีการจดรายชื่อและจดเลขบัตรประชาชน เพื่อเตรียมการซื้อเสียง
ทางด้านนายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ ผู้สมัคร นายกอบจ.พิจิตร หมายเลข 6พร้อมด้วยนางสมจิตร เจียมศรีพงษ์ ภรรยา นางสาวเอื้อมพร เจียมศรีพงษ์ นางสาวเบญจภรณ์ เจียมศรีพงษ์ ลูกสาว ได้ลงพื้นที่หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายโดยทั้งหมดขี่รถจักรยาน ไปรอบๆ เมืองพิจิตรและเดินขอคะแนนเสียงชาวพิจิตร ซึ่งต่างให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้กระแสซื้อเสียงแรงมาก เลยอดห่วงไม่ได้ ตลอดระยะเวลาการลงพื้นที่หาเสียงพยายามจะอธิบายและชี้แจงว่า ตนทำผลงานเพื่อประชาชนมามากมาย ตนจะใช้พลังความดีเพื่อเอาชนะ และสิ่งที่เป็นปัญหาขณะนี้ คือ มีป้ายหาเสียงถูกทำลายจำนวนมาก
