ศึกนายกอบจ.พะเยา-การต่อสู้ของ2เจน
พอเวลาผ่านไปคน เจเนอเรชั่น Z เริ่มมีบทบาทมากขึ้นและแสดงบทบาททางการเมืองแบบรุกรบ รวดเร็ว ด้วยนวัตกรรมที่เรียกว่าโซเชียลมีเดีย ทำให้การเมืองในเมืองน้ำกว๊านเปลี่ยน ผู้คน ทัศนคติทางการเมืองเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นการต่อสู้เพื่อชิงชัยนายก อบจ.พะเยาในครั้งนี้ จึงเสมือนการต่อสู้ทางความเชื่อของคนเจน X และเจน Z เป็นปฐมบท
วันที่ 20 ธันวาคม 2563 จะเป็นวันตัดสินความเป็นเจนเนอเรชั่น ของคนสองกลุ่ม ที่จะตัดสินใจว่า จ.พะเยาจะเดินหน้าพัฒนา หรือเดินตามวิถีใด ระหว่างคนเจน X และคนเจน Z โดยมีตัวเลือกหลักๆแค่ 2 กลุ่ม คือ 1. คณะก้าวหน้า มีนายชัยประพันธ์ สิงห์ชัย อดีต ส.อบจ.พะเยา เขต อ.ดอกคำใต้ และอดีตนายกอบต.ห้วยลาน อ.ดอกคำใต้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเปิดเผยจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า
ถึงขั้นลงทุนลงพื้นที่ จ.พะเยา เพื่อขอคะแนนจากคนเจน Z หวังใช้ความสดใหม่และความปากกล้า ใจกล้า ของนายธนาธรมา เปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงในกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มของอดีตคนเสื้อแดงเดิม ซึ่งมีทั้งเจน Xและเจน Z โดยอาศัย "โย เสื้อแดง"หรือนายทักษิณ กีรติศักดิ์วรกุล อดีต นปช.สายฮาร์ดคอร์ พูดจริง ทำจริง มาเป็นตัวเชื่อม พร้อมชูขึ้นเป็นรองนายกอบจ.พะเยา เพื่อเรียกคะแนนเสียงให้อีกชั้นหนึ่ง
ด้านตัวเต็งอย่าง นายอัครา พรหมเผ่า กลุ่มฮักพะเยา อดีตรองนายกอบจ.พะเยา น้องชายสุดเลิฟของ " พญานาค 2" ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในสมัยนายวรวิทย์ บุรณศิริ เป็นนายกอบจ.พะเยา และนายอัครา เกือบได้นั่งเก้าอี้ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่ถูกกระแสสังคมกดดัน จนต้องถอยรุ่นแทบเสียขบวน ก่อนที่จะมารับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยลงพื้นที่ช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่ชายมาตลอด
สำหรับ "สจ.แน้ว" หรือนายชัยประพันธ์ ถ้าพูดถึงเรื่องชื่อชั้นทางการเมืองยังถือว่าไม่หวือหวา ชัดเจนในภาพรวมของทั้งจังหวัด ถ้าในเขต อ.ดอกคำใต้ และกลุ่มคนเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ อาจจะมีคนรู้จักบ้าง แต่ถ้าเป็นอีก 8 อำเภอที่เหลือ ชาวบ้านแทบจะไม่รู้จักว่านายชัยประพันธ์คือใคร แต่อาศัยได้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มาเป็นตัวการันตีและตัวเพิ่มคะแนน จึงกล้าลงสมัครนายกอบจ.พะเยา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่อย่างมากสำหรับอดีต ส.อบจ.และอดีต นายกอบต.เล็กๆ วินาทีนี้ถือว่าเป็นรองนายอัครา หลายขุม
ส่วนนายอัครา มีต้นทุนของสังคมและมีคนรู้จักตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าสู่ถนนการเมือง เนื่องจากการช่วยเหลืองานพี่ชายในการทำมูลนิธิ "ธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อการกุศล"มาตลอด ทั้งการช่วยเหลือผู้ยากไร้รายบุคคล การช่วยเหลือรายองค์กรในรูปแบบการให้เปล่า ตลอดจนเมื่อได้รับการแต่งตั้งจากนายวรวิทย์ บุรณศิริ นายกอบจ.พะเยาให้เป็น รองนายกอบจ.พะเยา ก็ลงพื้นที่แก้ไขสารทุกข์สุกดิบของชาวบ้านและด้วยนิสัยเป็นคนสุภาพ พูดน้อย ยิ้มง่าย ไม่ถือตัว จึงเป็นที่รัก
แต่แล้วเกิดการระหองระแหงในเรื่องเส้นทางการเมืองของพี่ชาย ร.อ.ธรรมนัส กับคนในวังจันทร์ส่องหล้า ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมพร้อมข่าวลือ นายวรวิทย์ บุรณศิริ จะปลดนายอัครา พ้นเก้าอี้รองนายกอบจ.พะเยา สัมพันธ์จึงสะบั้นไป และนายอัครา ได้ถูกวางตัวจากพี่ชายดันเข้าสู่เก้าอี้นายกอบจ.พะเยาทันทีอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกับประกาศดังๆจะลงสมัครทันที เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ นั่นทำให้นายวรวิทย์ สะดุ้งเฮือกและรับรู้ชะตาตัวเอง ก่อนที่จะต้องละเว้นทางการเมือง ตามวิถีกรรม
วินาทีนี้ นายชัยประพันธ์ จะชนะนายอัครา มีเพียงหนทางเดียวคือซื้อใจวัยรุ่นเจน Z ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้ทั้งหมดและเสียงของ นปช.เดิม ทุ่มมาให้ จึงจะมีโอกาสชนะ ส่วนนายอัครา จะพลาดท่าพ่ายแพ้ได้ ถ้าไม่สามารถเอาชนะใจมวลชนเจน Z ได้เกินหนึ่งของผู้มีสิทธิ์
ส่วนคะแนนของเจน X การเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา คือคำตอบ จึงสรุปได้ว่า ประตูแพ้การเลือกตั้งของนายอัครา แทบปิดตาย และถ้าครั้งนี้นายอัครา แพ้การเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัส ยอมไม่ได้
