กทม.ขอโทษคนกรุงน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมรับมือฝนตกหนัก 7-9 ต.ค.นี้

นาย ศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพฯมหานคร  และ นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ ร่วมกันแถลงหลังจากที่กรุงเทพมหานครได้เรียกประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขต 50 เขต พื่อติดตามการแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำ โดยร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมืองกล่าวขอโทษชาวกรุงเทพมหานคร ต่อเหตุการณ์น้ำท่วมรอระบายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา  พร้อมระบุว่าทางผู้บริหารขอน้อมรับวามผิดไว้เเต่เพียงผู้เดียว ขอให้ชาวกรุงอย่่าไปโทษคนที่ทำงาน พนักงานที่เก็บขยะหน้าตะแกรง พนักงานหน่วยเบสท์ ที่คอยเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่  และขอให้เป็นกำลังใจให้พนักงาน ขณะนี้เหลืออีก 25วัน  จากค่าสถิติจะหมดฤดูฝน ก็จะผ่านพ้นสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว

โฆษกกทม. ชี้แจงต่อการตั้งคำถาม ของประชาชนว่า กทม.ไม่ทำอะไรเลยหรือ  ยืนยันว่า กทม.เตรียมพร้อมมาตลอดก่อนฤดูฝน   ทั้งการลอกท่อระบายน้ำ แต่บางพื้นที่เป็นวถานที่เอกชน ที่ผ่านมามีการลอกท่อระบายน้ำตามปกติ หากไม่ลอกท่อน้ำจะไม่สามารถระบ่ายได้เลย

ส่วนคำถามที่ว่า 4-5 ปี กรุงเทพมหานครไม่มีการพัฒนาขึ้นในการระบายน้ำ  ยืนยันว่ากรุงเทพมหานครพยามทำเต็มที่ในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ จากสถิติในอดีต ถนนสายหลัก5ปีที่เเล้ว จะใช้เวลาระบายเฉลี่ย 6 ชม. แต่ปัจจุุบันใช้เวลาเพียง 2-3  ชม.และน้ำจะขึ้นไปสูงเฉลี่ย 30 เซนติเมตรในถนนสายหลัก แต่ปัจจุบันเฉลี่ย 10-15 เซนติเมตร แต่ทางผู้ว่ากทม.ก็ยังไม่พอใจ แม้ประสิทธิภาพการระบายน้ำจะดีขึ้น4เท่า แต่ไม่ใช่สิ่งที่ตั้งใจไว้ ความตั้งใจของกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า ต้องการไม่ให้น้ำท่วมเลย แต่หนทางที่จะไปสู่จุดนั้นต้องใช้เวลา แต่ทางกรุงเทพมหานนครยืนยันว่าจะทำอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้น้ำท่วมกรุงเทพมหานคร
ที่ผ่านมาเวลาฝนตก กระบวนการระบายน้ำลงเจ้าพระยามีอุปสรรค โดยปัจจุบันได้มีการขยายท่อระบายน้ำเพิ่มขึ้นเเล้ว ปัจจุบันอุโมงค์ระบายน้ำทำเสร็จ4 แห่ง โดยอุโมงค์ยักษ์สามารถช่วยได้ แต่บางสถานที่ ก็ไม่สามารถช่วยได้ ปัจจุบัน กทม. ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบในทุกมิติ
นอกจากการดูแลน้ำท่วมแล้ว พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากทม.ยังขอให้อำนวยความสะดวกประชาชนจัดรถรับส่งเวลาน้ำท่วม

ด้าน นายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในช่วง 7-9 ตุลาคมนี้ ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาให้เตรียมรับมือฝนตกหนัก ซึ่งขณะนี้ได้เชิญทุกสำนักงานเขต โดยกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะลงพื้นที่ เมื่อฝนตกหนัก กำชับเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ ประจำจุดอ่อน จุดเสี่ยง น้ำท่วม  พร้อมเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือให้มีความพร้อม เพื่อให้มีศักยภาพระบายน้ำได้เร็วขึ้น

นายศักดิ์ชัย ระบุว่า ปัญหาน้ำท่วมรอการระบาย จะไม่โทษที่ขยะ แต่บางพื้นที่เป็นของเอกชน ไม่สามารถเข้าไปได้เช่นจุดบริเวณพระราม9ที่เคยน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในกทม.มีหมู่บ้านเก่าหลายแห่งที่เกิดปัญหา ซึ่งเวลานี้ทางกรุงเทพมหานครก็ยังพยายามที่จะคุยอยู่ สำหรับศักยภาพของการระบายน้ำปัจจุบันของถนนแต่ละแห่ง ระบบศักยภาพของท่อระบายน้ำเพิ่มขึ้นจาก30เซ็นติเมตร เป็น50เซนติเมตร ซึ่งสามารุรองรับฝนได้60มิลลิเมตรต่อชั่วโมง บางแห่งรองรับได้ถึง90มิลลิเมตรต่อชั่วโมง  สำหรับจุดเสี่ยงเดิมๆ จะต้องมีเครื่องสูบน้ำไว้ประจำจุด ควบคู่กับการลอกท่อ ในจุดบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นแผนปฏิบัติเพื่อให้มีประสิทธิภาพการระบายน้ำ