หนุ่มคลั่งบุกเผากุฏิ วัดฮ่องกอม่วงเช้ามืด
จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 24 ก.ย.ได้มีคนร้าย คือ นายณัฐพงษ์ อายุ 28 ปี ชาว อ.บ้านธิ จ.ลำพูน เกิดคุ้มคลั่งบุกเข้าไปภายในวัดฮ่องกอม่วง หมู่ที่ 6 ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน แล้วหนีเข้าไปกุฏิชั้น 2 ก่อนที่คนร้ายจะจุดไฟเผาสบงจีวรทำให้เกิดไฟไหม้ที่ฝาผนังกุฏิ พระและสามเณรต่างตกใจพากันกระโดดออกจากหน้าต่างกุฏิ ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปช่วยกันดับไฟ
พร้อมทั้งพยายามควบคุมตัวนายณัฐพงษ์แต่เขาได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีและซ่อนตัว เจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลังกันปิดล้อมเอาไว้กว่า 3 ชั่วโมง จนกระทั่งเช้านี้ คนร้ายได้กระโดดลงจากชั้น 2 ด้านหลังกุฏิ แล้วกระโดดข้ามกำแพงไปซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านสามารถจับกุมตัวได้ ในสภาพได้รับบาดเจ็บบริเวณมือและขา และยังให้การวกวนอ้างว่ามีคนตามฆ่า คล้ายกับหลอน
ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ เคยได้รับโทษในคดียาเสพติดมาก่อนและพึ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษ ออกจากเรือนจำมาได้ไม่กี่วันนี้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดก่อนที่จะควบคุมไปสอบสวนที่ สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 24 ก.ย.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดฮ่องกอม่วง หมู่ที่ 6 ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน พบกับพระอธิการบรรพต จันธโม เจ้าอาวาสวัด พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้มีคนนำเครื่องเสียงมาส่งให้ที่วัด แต่ด้วยที่เครื่องเสียงตัวใหญ่เคลื่อนย้ายลำบากจึงได้นอนเฝ้าอยู่ที่สำนักงานเจ้าอาวาส ซึ่งอยู่ติดกับอาคารเอนกประสงค์ กระทั่งเวลาเกือบตีสามได้ยินเสียงคล้ายคนมาทำอะไรอยู่ที่ด้านนอกห้องจึงออกมาดูและตะโกนถามว่าใครมาทำอะไรที่วัดตอนดึกๆดื่นๆ
เมื่อเห็นว่าเป็นคนร้ายจึงล็อคห้องแล้วโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้าน เมื่อผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านมาถึงก็ช่วยกันไล่จับคนร้าย แต่คนร้ายหนีขึ้นไปกุฏิสามเณร ซึ่งอยู่บนชั้นสองจำนวน 9 รูป และได้เคาะห้องเรียกให้เณรทั้ง 4 ห้องให้ออกมา แต่ไม่มีใครกล้าออกมาจึงนำสบงจีวรเณรที่ตากไว้มาเผา ทำให้เณรต้องปีนหนีและกระโดดออกมาจากหน้าต่างชั้นสองเหลือเพียงเณรรูปเดียวที่หนีออกมาไม่ได้ เนื่องจากน้ำหนักตัวมาก
เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ช่วยกันดับไฟก่อนที่จะไปนำตัวเณรออกมาจากห้องได้สำเร็จ ส่วนคนร้ายคาดว่าซ่อนตัวอยู่ในกุฏิกระทั่งเช้าและคาดว่าได้กระโดดจากช่องลมของห้องน้ำชั้นสองซึ่งมีความสูงจากพื้นกว่า 5 เมตร ก่อนที่กระโดดข้ามกำแพงวัดไปซ่อนตัวอยู่ที่พงหญ้าซึ่งอยู่ใกล้ๆและได้รับบาดเจ็บ จนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ในเวลาช่วงเช้า
ด้านสามเณรสรวิชญ์ อายุ 13 ปี และสามเณรจ่ามมนูญ นายหลาว อายุ 20ปี เปิดเผยว่า ตอนนั้นเวลาเกือบตีสาม คนร้ายได้มาเคาะห้องสามเณรทุกห้อง พร้อมโวยวายให้เปิดประตูห้องแต่ไม่มีใครกล้าเปิด คนร้ายจึงได้นำสบงจีวรของพระและสามเณรที่ตากไว้หน้าห้องมาเผาทำให้ควันไฟฟุ้งกระจายไปเกือบทุกห้อ งจึงตัดสินใจพากันปีนออกมาทางหน้าต่างและค่อยๆปีนลงทางมุขครอบหน้าต่างก่อนที่จะกระโดดลงมาซึ่งจุดที่กระโดดมีความสูงประมาณ 2-3 เมตร และเณรได้มารวมตัวกันที่ด้านล่างเหลือเพียงสามเณรเพียงรูปเดียว คือ สามเณรนันทภพ ซึ่งรูปร่างท้วมเลยทำให้ไม่กล้ากระโดดลงมา จนกระทั่งตำรวจและชาวบ้านขึ้นไปนำตัวลงจากกุฏิได้ในเวลาต่อมา
ด้านสามเณรนันทภพ(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 13 ปี เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุเพื่อนสามเณรรูปอื่นๆปีนหนีออกไปทางหน้าหมดแล้วเหลือเพียงแต่ตนเองรูปเดียวที่ไม่กล้าปีนลงไปเพราะมันสูง ประกอบกับตนเองน้ำหนักมากหากกระโดดลงไปอาจจะได้รับบาดเจ็บจึงนั่งสวดมนต์และนั่งสมาธิใกล้กับหน้าต่างเพื่อไม่ให้ตกใจ กระทั่งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านเข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว
