" ผมเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศอย่างแท้จริง ไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองที่เป็นนักเลือกตั้ง
ถ้าผมเป็นนักการเมืองแล้วไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผมจะต่อต้านและไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งให้เสียศักดิ์ศรีหรืออุดมการณ์โดยเด็ดขาด
ผมไม่เข้าใจว่าคนประเภทไหนกันที่บอกว่ารัฐธรรมนูญ2560เป็นเผด็จการแต่พวกเขากลับลงสมัครรับเลือกตั้งจนกลายมาเป็นส.ส.ที่มาจากรัฐธรรมนูญเผด็จการได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญเผด็จการเสียเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองหนึ่งมีจำนวนส.ส.ในสภามากกว่าครึ่งมาจากความพิเศษของรัฐธรรมนูญเผด็จการฉบับนี้ปากบอกว่ารังเกียจเผด็จการป้ายสีคนอื่นว่าเป็นเผด็จการในขณะที่ตัวเองก็มาจากรัฐธรรมนูญเผด็จการเหมือนกัน
ทำให้ผมแอบสงสัยว่าส.ส.กลุ่มนี้เคยรู้สึกขยะแขยงตัวเองบ้างหรือไม่ที่พวกเขาเองก็มาจากรัฐธรรมนูญเผด็จการเคยรู้สึกสมเพชตัวเองบ้างหรือเปล่าเวลาได้รับประโยชน์จากรัฐธรรมนูญเผด็จการ?
ดร.ศุภณัฐ
24กันยายนพ.ศ. 2563
#ประชาธิปไตยTheseriesbyดร.ศุภณัฐ"
"ผมเห็นว่า ควรแก้ไขในรายระเอียด ประเภท การนับคะแนน การปัดเศษ ได้สส.พรรคเล็ก เจตนาของรัฐธรรมนูญต้องการให้ทุกเสียงสำคัญ ควรคิดและออกแบบ การปัดเศษ เสียใหม่ และการต้องมีการแถลง วิสัยทัศน์ แสดง คุณสมบัติ ผู้ที่แข่งขัน จะมาเป็น รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้บริหารงานกระทรวง ทบวง กรมนั้นๆ ควรมี หลักการ วัดความรู้ความสามารถ หรือ ต้องให้แสดงวิสัยทัศน์ มีแคนนิเดท ทุกๆตำแหน่งทุก กระทรวงฯ ไม่ใช่ เอาตามโควต้า มีพรรคพวกสส.มาก มีพวกมากลากไป"
"การแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจต้องใช้เงินถึง20,000ล้านบาทเพื่อทำประชามติ 2 ครั้งเลือกตั้ง สสร. 1 ครั้งดูจะไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ประเทศที่มีปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจตอนนี้นะคะปัญหาปากท้องประชาชนและเศรษฐกิจคือยังจำเป็นมากกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งงบต้องมาจากภาษีของประชาชนและสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน อยากให้ฝ่ายค้านคิดถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลักค่ะมากกว่าความต้องการและถูกใจของพรรคพวกตัวเอง"
ขอบคุณข้อมูล :เฟซบุ๊กSuphanat Aphinyan