ลูกค้าหัวใส ซุกกางเกงเพิ่มน้ำหนักก้อนยางพารา

เมื่อวันที่ 10 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ฟ้าใส ตะวัน" ได้โพสต์ภาพก้อนยางพารา ซึ่งเมื่อผ่าออกมาปรากฏว่า พบกางเกงวอร์มน้ำหนักกว่า 3 กิโลกรัมยัดซุกซ่อนอยู่ภายในก้อนยางดังกล่าว พร้อมกับโพสต์ข้อความระบุว่า "รอบหน้าขอเป็นเสื้อนะได้ครบชุด ราคาขี้ยางแพงลูกค้าจัดโปรซื้อ 1 แถม 1 คนทำคงเมาน้ำยาฆ่ายางแน่เลย มีเพขี้ยางยุคโควิด"
ต่อมาผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบกรณีดังกล่าว ได้พบกับ น.ส.วิวรรณชนก รอดดำ หรือพี่อ้อม อายุ 30 ปี เจ้าของลานรับซื้อยางพารา ชื่อลาน "เอ็มอ้อมการยาง" ตั้งอยู่เลขที่ 219 หมู่ 2 บ้านไชยภักดี ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง โดยเป็นเจ้าของโพสต์ดังกล่าว และเปิดลานรับซื้อมานานกว่า 8 ปีแล้ว

น.ส.วิวรรณชนก เล่าว่า ตนเองได้รับซื้อเศษยางมาจากพ่อค้ารายย่อย ในพื้นที่ ต.อ่าวตง หลายๆแห่ง หลายๆเจ้า เมื่อรับซื้อมาแล้ว ก็ได้นำมารวมกัน ก่อนจะนำมาผ่าที่ร้านซึ่งเปิดเป็นลานรับซื้อ เพื่อที่จะนำไปส่งโรงงาน และหาสิ่งแปลกปลอมก่อนจะนำไปส่งโรงงาน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 14.00น.วันเสาร์ ที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างที่ลูกน้องกำลังผ่าอยู่นั้น พบก้องยางก้อนดังกล่าวมีลักษณะนิ่มผิดปกติ ก่อนจะผ่าออกมาพบมีวัตถุสีดำอยู่ภายใน ก่อนที่จะนำพามาให้ตนดู ก็พบว่าข้างนอกในกางเกงวอร์ม ซึ่งน่าจะเป็นกางเกงที่ใช้ใส่กรีดยาง หนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม และเปียกลียกน้ำชุ่มอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นของผู้ขายหรือพ่อค้ารายได เนื่องจากเมื่อซื้อมาแล้วก็ได้นำมารวมกัน ในเบื้องต้นคิดว่าเจตนาใส่ไว้เพื่อน้ำหนักให้ก้อนยางมีน้ำหนักที่มากขึ้น และได้ราคาที่ดีขึ้น

น.ส.วิวรรณชนก กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจอสิ่งแปลกปลอมมากถึงขนาดนี้ ครั้งนี้แปลกมาก ถ้าหากเกิดมีสิ่งแปลกปลอมติดไปเช่นนี้ เมื่อเรานำส่งไปโรงงาน ทางโรงงานก็จะปรับราคาที่ผู้ไปส่งคือเรา

น.ส.วิวรรณชนก กล่าวอีกว่า ตนเองก็อยากฝากไปถึงพ่อค้าหรือชาวสวนทั่วไป ถ้าเกิดทำมาแบบนี้ ทำให้คนที่รับซื้อมาอีกทีเหมือนตน เกิดความเสียหาย เพราะเราไม่รู้ว่า เป็นของชาวสวนคนไหน ถ้าเกิดนำส่งไปโรงงานเราก็จะโดนปรับ หากเกิดแบบนี้หลายๆครั้งขึ้นมา ทางเราก็หมดความน่าเชื่อถือ ไว้ว่าราคายางจะแพงหรือถูก เราก็จะต้องนำยางที่มีคุณภาพ ทุกอาชีพต้องมีความซื่อสัตย์ แต่เมื่อพบเจอแบบนี้เราก็เสียความรู้สึก ถ้าหากเป็นแค่เพียงเศษไม้ถือว่าไม่มีปัญหา
"เหตุการณ์นี้ตนเองก็ไม่ได้ไปแจ้งความหรือบันทึกประจำไว้เพื่อเอาผิดใครแต่อย่างได ที่ออกมาโพสต์ก็แค่เพียงอยากให้คนที่ทำ เผื่อเขาจะเห็น ในสิ่งที่เราโพสต์ไป อย่าให้เขาไปทำกับคนอื่นอีก ความรู้สึกแรกก็ตกใจ ว่าทำไมถึงวงการยางของชาวสวนเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้ทำไมถึงต้องทำกับขนาดนี้ เพราะอาชีพที่เราทำอยู่ก็ทำด้วยใจ ซื่อตรงกับลูกค้า ไม่เคยโกงราคากับลูกค้า ยอมรับเลยว่าเสียความรู้สึกมากๆ และอยากฝากให้ชาวสวนที่กระทำเช่นนี้มีสามัญสำนึกบ้าง" น.ส.วิวรรณชนก กล่าวปิดท้าย