ซุ้มประตูนย.มูลค่า 20 ล.เปิดใช้แล้ว ทร.ยันไม่ใช่งบหลวง
ซุ้มประตูทางเข้าหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน มูลค่า 20 ล้านบาท เปิดทางการเเล้ว รองรับการจราจรและปริมาณรถที่จะเพิ่มขึ้น ตามโครงการ EEC ทร.ยืนยันไม่ได้ใช้งบหลวง แต่มาจากการเช่าบูชาวัตถุมงคล เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และเงินบริจาค
(22 สิงหาคม 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้เป็นประธานเปิดซุ้มประตูค่ายกรมหลวงชุมพร หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างซุ้มประตูหน่วย เนื่องจากซุ้มประตูเดิมกีดขวางการสร้างขยาย ถ.สุขุมวิท เพื่อรองรับการจราจรและรองรับปริมาณรถที่จะเพิ่มขึ้น ตามโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC :Eastern Economic Corridor)ทั้งนี้ ทำให้ต้องมีการรื้อถอนซุ้มประตูเดิมออก โดยผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มาสำรวจพื้นที่ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2562 และให้แนวทางการก่อสร้างซุ้มประตู ให้มีลักษณะคล้ายป้อมปราการในสนามรบสมัยโบราณ จึงให้กรมช่างโยธาทหารเรือ ดำเนินการเขียนแบบและคำนวณการก่อสร้าง โดยรูปแบบซุ้มประตูมีขนาด ความกว้าง 33 เมตร ความหนา 6 เมตร และมีความสูง 18.6 เมตร ซึ่งมีความกว้างและสูงเพียงพอ ที่จะให้ยานพาหนะรวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน สามารถผ่านเข้า - ออก ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
ส่วนรายละเอียดซุ้มประตู มีเครื่องหมายความสามารถพิเศษ หลักสูตร การลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจม หรือที่เรียกกันว่า "Recon" ติดตั้งนามค่าย และคำขวัญที่ทหารนาวิกโยธินทุกนาย ได้รับการปลูกฝังลงในจิตใจ ที่ว่า "กาย ใจ ชีวิต มอบเป็นราชพลี" "เมื่อรบ ต้องชนะ" และ "นำดี ตามดี" ส่วนด้านบนของซุ้มประตู ติดตั้งกลอง 3 ใบ ที่จำลองมาจาก ซุ้มประตูค่ายทหารในสมัยโบราณ ได้แก่ กลองย่ำพระสุริย์ศรี ที่ใช้ตีบอกเวลา กลองอัคคีพินาศ ที่ใช้ตีเพื่อแจ้งเหตุไฟไหม้ และกลองพิฆาตไพรี ที่ใช้ตีเมื่อเกิดศึกสงคราม เป็นความหมายถึง การป้องกันภัยร้ายต่างๆ ไม่ให้กล้ำกรายมาสู่ กำลังพลและผู้พักอาศัยในค่ายกรมหลวงชุมพรแห่งนี้ทั้งนี้ ซุ้มประตูใหม่ ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินแห่งนี้ นับเป็นปราการด่านแรกในการเข้าสู่พื้นที่ค่ายกรมหลวงชุมพร จะได้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งความแข็งแกร่งและสื่อถึงการปฏิบัติภารกิจของทหารนาวิกโยธินที่ได้รับใช้ผืนแผ่นดินไทยอย่างเสียสละตลอดมาในส่วนของการก่อสร้าง ใช้กำลังพลของกองพันทหารช่าง หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินเป็นหลัก ทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้เป็นจำนวนมาก โดยใช้งบประมาณจัดสร้าง รวมถึงปรับภูมิทัศน์พื้นที่โดยรอบ เป็นจำนวนเงิน 20 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม งบดังกล่าวไม่ใช่งบของราชการ แต่มาจากการเปิดให้เช่าบูชาวัตถุมงคล พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือ ที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้น ซึ่งมีกำลังพลตลอดจนผู้มีจิตศรัทธาในองค์บิดาของทหารเรือไทย ให้ความสนใจเช่าบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงร่วมบริจาคในการสร้างซุ้มประตูเป็นจำนวนมาก ทำให้การดำเนินการต่างๆ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
