ศรีสวัสดิ์ยันปล่อยกู้ระมัดระวังทำมีสภาพคล่องเพียงพอ

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน) หรือ SAWAD กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส2/2563  บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 1,070.56ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม883.29 ล้านบาท โดยมีรายได้ดอกเบี้ยไตรมาส2/2563 จำนวน 2,061.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น319.56 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.34%เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ดอกเบี้ย 1,742.37 ล้านบาทซึ่งก็เป็นผลมาจากการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้จาก 35,255.10  ล้านบาท ในช่วงสิ้นสุดไตรมาส2/2562 เพิ่มเป็น39,926.79 ล้านบาท  ในช่วงสิ้นสุดไตรมาส2/2563 หรือเพิ่มขึ้น 13.25%

 

ขณะที่มีรายได้อื่น 563.29 ล้านบาท ลดลง 36.85ล้านบาท หรือลดลง 6.14 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อื่น 600.14ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมที่บริษัทได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

 

นางสาวธิดา กล่าวต่อว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19ในช่วงที่ผ่านมา แม้จะส่งผลกระทบต่อบริษัทบ้างแต่บริษัทก็ยังรักษาอัตราการเติบโตในระดับที่น่าพอใจซึ่งก็เป็นผลมาจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เน้นการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด  ขณะเดียวกันก็มีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจและให้ความช่วยเหลือลูกค้า 

 

 

สำหรับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบริษัทที่ลดลงเหลือ 3.93 %ในไตรมาส2/2563 จากไตรมาส 1/2563 บริษัทมีเอ็นพีแอลของบริษัทอยู่ที่ระดับ 4.99%ซึ่งการลดลงของเอ็นพีแอลเป็นผลมาจากการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดรวมทั้งมีการปล่อยกู้แบบระมัดระวัง