ซัด"ประยุทธ์"เลิกสกัดกั้นคนเห็นต่างคิดแก้รัฐธรรมนูญ

(8 สิงหาคม 2563) น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการสั่งให้ตำรวจเข้าขัดขวางการชุมนุมของนักศึกษาและประขาชน พร้อมดำเนินคดีด้วยข้อหารุนแรง เนื่องจากการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น รัฐบาลไม่ควรใช้อำนาจหรือกลไกรัฐ ข่มขู่คุกคามประชาชนที่เห็นต่างทางการเมือง เพียงเพื่อจะรักษาอำนาจไปวันๆ โดยไม่ยอมรับฟังความเห็นของคนในสังคม

"นายกฯ เพิ่งบอกว่าจะเดินสายรับฟังความเห็นนักศึกษาทั่วประเทศ แต่ไม่ทันข้ามคืน ก็สั่งให้ตำรวจเข้าจับกุมนักศึกษาที่ชุมนุมด้วยความสงบ เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรรมนูญและยุบสภาฯ จึงเป็นการกระทำที่สวนทางกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นอีกครั้งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าคำพูดของคนชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เชื่อถือไม่เคยได้" น.ส.นภาพร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมานักเรียน นิสิต นักศึกษา ในฐานะคนรุ่นใหม่ ได้ใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งยุบสภาฯ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งใหม่ ด้วยกติกาที่เป็นธรรม ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปเพื่อการปฎิรูปการเมือง ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ แต่นอกจากรัฐบาลจะพยายามเตะถ่วง ด้วยการโยนกลับไปให้เป็นเรื่องของสภาฯแล้ว ยังพยายามสกัดกั้นข่มขู่ คุกคามนักศึกษาทุกรูปแบบ ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยพูดเอาไว้

น.ส.นภาพร กล่าวด้วยว่า การวิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรี เป็นเสรีภาพอย่างหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น นายกฯควรใจกว้างและจริงใจรับฟัง ไม่ใช่ยื้อเพื่อถ่วงเวลาไปวันๆ เท่านั้น ซึ่งทุกคนดูออกว่ารัฐบาลไม่อยากให้แก้รัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ควรตีสองหน้า และที่สำคัญ หากการจับกุมนักศึกษาทำให้สถานการณ์บานปลายจนกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์จะรับผิดชอบอย่างไร