ลูกสาวเหยื่อหนี้นอกระบบโดนขังห้องนายอำเภอ

ปัญหาหนี้นอกระบบในพื้นที่ภาคอีสานกำลังระบาดอย่างต่อเนื่องรุนแรง ล่าสุดได้รับการเปิดเผยจากลูกสาวเหยื่อหนี้นอกระบบ เล่าเหตุการณ์ว่า แม่ถูกคุมขังในห้องขังสถานีตำรวจ เนื่องจากนายทุนเงินกู้นอกระบบแจ้งจับ เพราะไปวิดบ่อปลาในที่นาของตัวเอง ซึ่งเป็นที่นาที่นำไปจำนอง ค้ำประกันเงินกู้ แต่นายทุนทำเป็นขายฝากแล้วยึดที่นาไป แต่แม่ไม่ยอมเซ็นยินยอมยกที่นา 7 ไร่ 3 งานให้นายทุน

เธอเล่าว่า ขณะเกิดเหตุเรียนอยู่ชั้น ม.2 ส่วนพี่สาวอยู่ชั้น ม.3 ในวันที่แม่ถูกจับ มีผู้พาไปพบนายอำเภอ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่นายอำเภอบอกว่า จะปล่อยตัวแม่ก็ต่อเมื่อเธอและพี่สาวเซ็นยินยอมรับสภาพหนี้กับนายทุน แต่เธอปฏิเสธเพราะทราบว่าแม่ไม่ได้เงินจากนายทุนเต็มตามจำนวน จากนั้นจึงถูกคุมตัวให้นั่งอยู่ในห้องนายอำเภอ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น. โดยในห้องมีทั้งนายอำเภอ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่หน้าห้องร่วมกันเกลี้ยกล่อมตลอดทั้งวัน หลังจากเธอและพี่สาวไม่เซ็นยินยอม เมื่อพ้นเวลาราชการ ตำรวจจึงนำตัวแม่เข้าเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนเธอและพี่สาวก็ถูกปล่อยตัวออกมาจากห้องนายอำเภอ ระหว่างกำลังขี่รถจยย.กลับบ้าน ปรากฎว่ามีตำรวจนอกเครื่องแบบขับรถตามเธอไปตลอดทาง ทำให้กลับบ้านไม่ได้ จึงต้องหลบหนีไปอยู่ที่อื่น

ระหว่างที่แม่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เธอขี่รถจยย. ข้ามจังหวัดเพื่อมาเยี่ยมแม่ แต่เกิดอุบัติเหตุรถล้มถึงขั้นปากฉีก ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล นอกจากนี้เธอและพี่สาวยังต้องหยุดพักการเรียน 1 เทอม เนื่องจากนายทุนเงินกู้ส่งคนมาตามข่มขู่คุกคาม ถึงขั้นบุกเข้าไปในโรงเรียนและเเจ้งกับผอ.โรงเรียนและครูว่าให้ตามตัวเธอมาพบ เพื่อเซ็นหนังสือยินยอม แต่เธอไม่ยอมเซ็นจากนั้นรู้สึกอับอายและหวาดกลัวจึงไม่กล้าไปโรงเรียนอีกลูกสาวเหยื่อหนี้นอกระบบรายนี้ยังบอกอีกว่า รู้สึกไม่ได้รับเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีส่วนร่วมรู้เห็นกับนายทุน แทนที่จะปกป้องชาวบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงอยากขอให้ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม เข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน