วันนี้ (10 ก.ค.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผศ.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ ผู้แทนเครือข่ายปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดินและคณะ เข้าร้องเรียนกับนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน เพื่อขอให้ตรวจสอบการดำเนินงานของคณะกรรมการสกสค. และคณะกรรมการบริหารโรงพิมพ์คุรุสภาว่า อาจมีการทุจริตประพฤติมิชอบ บริหารงานไม่โปร่งใส สร้างความเสียหายให้ส่วนราชการ จนส่งผลให้มีการปลดพนักงาน สกสค. 961 คน
ผศ.วิวัฒน์ชัย บอกว่า สาเหตุการยื่นร้องเรียนในครั้งนี้ สืบเนื่องจากคำสั่งที่ 85/2563 ลงวันที่ 29 มิ.ย. 2563 ของคณะผู้บริหารองค์การค้าสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือบอร์ด สกสค. ได้กระทำการเลิกจ้างพนักงานของโรงพิมพ์คุรุสภา 961 คนโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และยังไม่มีการจ่ายเงินเดือนงวดล่าสุด คือเดือนมิ.ย.63 ให้กับพนักงานแม้แต่คนเดียว อีกทั้งเมื่อกลุ่มลูกจ้างออกมาเคลื่อนไหว ผู้บริหารสกสค. กลับยื่นข้อเสนอเงินค่าตกใจจำนวน 1 แสนบาทให้กับพนักงานทุกคน ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตและภาระหนี้สินที่มีอยู่
ผศ.วิวัฒน์ชัย ยังบอกอีกว่า อยากให้ตรวจสอบเบื้องลึกในสมัยที่อดีตรมว.ศึกษาธิการ และอดีตปลัดศึกษาธิการทั้งสองคน พร้อมด้วยนายเกษม กลั่นยิ่ง และนายสมศักดิ์ ตาไชย อดีตกรรมการบอร์ด และเลขาธิการสกสค. ซึ่งถูกดำเนินคดีฐานทุจริตได้เคยมีดำริที่จะขายและให้เช่าที่ดินของโรงพิมพ์คุรุสภา เพื่อนำมาดำเนินการทางธุรกิจ และมาชำระหนี้โรงพิมพ์ต่างๆ ที่ไปจ้างพิมพ์ภายนอกด้วยวิธีพิเศษไม่ผ่านระเบียบจัดซื้อจัดจ้างตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังติดค้างค่าพิมพ์จนหนี้พอกพูนจนถึงปัจจุบัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม >>> บอร์ดองค์การค้า สกสค. ชี้แจงเลิกจ้างพนักงาน 961คน
ทั้งนี้ ทางเครือข่ายฯ ต้องการให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบสาเหตุการขาดทุนขององค์การค้าคุรุสภาว่า มาจากอดีตผู้บริหารและคณะกรรมการสกสค.หรือไม่ และขอให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.ตรวจสอบจากบันทึกโทรศัพท์ของผู้เกี่ยวข้องย้อนหลัง 1 ปี ก่อนเกิดวิกฤติการณ์เลิกจ้าง
2.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ผ่านทาง ป.ป.ง.
3.ตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของโรงพิมพ์ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานไปพิมพ์ย้อนหลัง 10 ปี เพื่อดูว่าผู้ใดทำให้เกิดการขาดทุน และใครได้รับประโยชน์จากการขาดทุนครั้งนี้ หากพบว่าคณะกรรมการดังกล่าวมีความผิดประพฤติมิชอบ หรือบริหารงานไม่โปร่งใส ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
หลังจากรับเรื่อง นายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียนบอกว่า จะเร่งนำเสนอต่อประธานผู้ตรวจการแผ่นดินโดยเร็ว และยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย