โดยส่วนหนึ่งของมาตรการคือ การที่ฝ่ายเสนาธิการของกองทัพประชาชนเกาหลี ระบุว่าจะส่งทหารไปยังนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ที่ขณะนี้ปิดตัวอยู่ และที่เขตท่องเที่ยวบนภูเขากุมกัง ซึ่งทั้งสองแห่งได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการปรองดองระหว่างสองเกาหลี
เกาหลีเหนือยังถอนตำรวจออกจากเขตปลอดทหาร และสร้างป้อมให้ทหารประจำการตามเดิม เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการอารักขาแนวหน้า และกลับมาใช้ "ปฏิบัติการทางทหารทุกประเภท" ที่ถือเป็นการทำลาย "ข้อตกลงลดความตึงเครียดทางทหาร" ที่สองเกาหลีลงนามร่วมกันในปี 2561 และยังมีขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากเกาหลีเหนือระเบิดอาคารสำนักงานประสานงานที่เขตแกซองทิ้ง .สำนักข่าวกลางของเกาหลีเหนือ หรือ KCNA ระบุว่า ตอนที่เกาหลีใต้รีบร้อนส่งสารไปนั้น คิม โยจอง รองผู้อำนวยการอันดับ 1 คณะกรรมการกลางของพรรคกรรมกรแห่งเกาหลี ได้ปฏิเสธอย่าง "ไร้เยื่อใย" ต่อข้อเสนอที่ "ไม่มีกาละเทศะ" และ "มุ่งร้าย" และยังประนามประธานาธิบดีมุน ที่กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี ประชุมสุดยอดระหว่างเกาหลี เมื่อปี 2543 เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยอมเจรจา และย้ำความจำเป็นที่จะต้องสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน
โดยมีพื้นฐานจากสปิริตของการประชุมประวัติศาสตร์ในครั้งนั้น แต่คิม โยจอง กลับเรียกว่าเป็นสุนทรพจน์ที่น่าขยะแขยง ที่เต็มไปด้วยข้อแก้ตัว ไม่มีคำขอโทษกรณีใบปลิว ส่วนคำสัญญาที่ว่าจะป้องกันก็แค่ความพยายามปัดความรับผิดชอบเท่านั้น