ในวิกฤติยังมีโอกาสโดยเฉพาะการที่เมืองไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารของโลก เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ โดยตลาดใหม่ที่น่าจะเกิดและขยายต่อได้หลังโควิด ก็คือตลาดมุสลิมกับผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล
ที่ผ่านมา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานส่งเสริมสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน "ฮาลาล" โดยรวบรวมตัวแทนทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องด้านการผลิต / การแปรรูป / โลจิสติกส์ / และการส่งออกสินค้าฮาลาล ทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมกันทำงาน โดยมี นายอลงกรณ์ พลบุตร ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานคณะทำงาน
นายอลงกรณ์ บอกกับ "เนชั่นทีวี" ในช่วงทีเดินทางมามอบหน้ากากอนามัยให้กับทีมข่าวว่า อุตสาหกรรมฮาลาลมีความสำคัญกับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง และถือว่าเป็นโอกาสของประเทศไทย เนื่องจากไทยมีศักยภาพในการผลิตสินค้าอาหารและเกษตรอันดับ 2 ของเอเชีย เป็นรองก็แค่จีน และเป็นอันดับ 12 ของโลก แต่เรายังส่งออกอาหาฮาลาลยังน้อยมาก ในขณะที่ตลาดมุสลิมเป็นตลาดขนาดใหญ่ของโลก หากเราสามารถส่งเสริมทั้งด้านการวิจัย การรับรองมาตรฐานการผลิต การลงทุน การเปิดตลาดส่งออก และโลจิสติกส์ จะเป็นความหวังที่สำคัญของไทยได้ ซึ่งตลาดนี้กำลังเติบโตต่อเนื่องทุกปี มีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
ขณะนี้มีการเจาะจงประเทศเป้าหมายที่มีศักยภาพในการนำเข้าอาหารฮาลาลที่น่าสนใจ คือ ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีประชากรมุสลิมรวมกัน 54 ล้านคน เป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูง ก่อนขยายไปยังประเทศอื่น ขณะที่ภูมิภาคเอเชียกลาง มีประชากร 100 ล้านคน และกลุ่มอาเซียน มีประชากรมุสลิม 240 ล้านคน มีตลาดที่สำคัญทั้งอินโดนีเซีย และมาเลเซีย