นายชุมพล จำปีเจริญสุข เลขานุการ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณหอการค้าจังหวัดเชียงราย และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ที่ได้ประสานงานกับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือในการระบายกุ้งก้ามกรามออกมาจำหน่ายนอกพื้นที่เป็นครั้งแรก โดยจะกระจายขาย 3 จุดในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีโชคพลาซ่า, หน้ารพ.นครพิงค์ และสามแยกตลาดสันทราย โดยก่อนหน้านี้ได้ตั้งจุดจำหน่ายที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายไปแล้วสามารถระบายกุ้งก้ามกรามได้จำนวน 3 ตัน และในครั้งนี้ได้นำกุ้งก้ามกรามทั้งคัดไซส์ และคละไซส์ จำนวน 700 กิโลกรัม มาจำหน่ายในราคาหน้าบ่อกิโลกรัมละ 310-460 บาท เพื่อกระจายให้ถึงมือผู้บริโภคในจังหวัดเชียงใหม่โดยตรง
เนื่องจากในต่ละปีจะมีกุ้งก้ามกรามออกสู่ตลาด 2 ช่วง โดยเดือนเมษายนของทุกปี จะเป็นช่วงที่จะมีกุ้งก้ามกรามออกจำหน่ายในรอบแรกของปี ไม่ต่ำกว่า 30-40 ตัน แต่เมื่อมาเจอกับปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้การซื้อขายทุกอย่างหยุดชะงักทั้งหมด โดยร้านอาหารส่วนใหญ่ต่างปิดกิจการชั่วคราว และบางร้านก็ได้มีการชะลอการซื้อ อีกทั้งยังเจอกับการส่งออกกุ้งก้ามกรามไม่ได้ตามปกติ เนื่องจากด่านชายแดนที่เคยส่งออกไปยังประเทศเมียนมา และสปป.ลาว ได้ปิดเพื่อสกัดการแพร่เชื้อโควิด-19 จึงต้องหาทางในการแก้ไขปัญหาด้วยการเร่งระบายกุ้งออกจากบ่อให้เร็วที่สุด เพราะไม่เช่นนั้น มีโอกาสที่กุ้งก้ามกรามจะเกิดการน็อคน้ำได้ และอาจสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม
"ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งของกลุ่มฯมีจำนวน 68 ราย และต้องใช้เงินทุนในการซื้ออาหารระหว่างที่รอระบายกุ้งออกสู่ตลาด และการจะเปลี่ยนน้ำในบ่อกุ้งก็เป็นไปอย่างลำบาก เพราะไม่เพียงแต่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19แล้ว ยังประสบกับภาวะภัยแล้งแทบจะไม่มีน้ำเข้ามาเลี้ยงกุ้งกันแล้ว ซึ่งการออกมาขายนอกพื้นที่ในครั้งนี้ หากว่าได้รับการตอบรับที่ดี อาจจะมีการขยายไปขายในพื้นที่อื่นๆ แต่ก็มีข้อจำกัด เพราะยังอยู่ในช่วงประกาศเคอร์ฟิว และการนำกุ้งเป็นออกมาขายมีความเสี่ยงสูง ซึ่งเบื้องต้นคงจะเร่งระบายกุ้งก้ามกรามให้เสร็จภายใน 2 เดือนนี้ และอยากให้ภาครัฐเข้ามาให้ความช่วยเหลือในการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำมาหมุนเวียนในการนำไปซื้ออาหารให้กุ้งที่รอขายด้วย " นายชุมพล กล่าว