ทั้งนี้ ในรายที่ดื่มจนติดจะเสี่ยงต่อการเกิดอาการทางจิตได้ เช่นซึมเศร้า อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร มีอาการประสาทหลอน หูแว่ว หวาดระแวง ระบบความจำบกพร่องสับสนไม่รู้วัน เวลา สถานที่ สมองเสื่อม มีปัญหาในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มีความผิดปกติทางอารมณ์และพฤติกรรม
รองอธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ บอกว่า ในผู้ที่มีอาการพิษสุราเรื้อรังและดื่มแบบเสี่ยงรุนแรงซึ่งหมายถึง ผู้ที่ดื่มมากกว่าตั้งแต่ 5 วันต่อสัปดาห์ขึ้นไปและดื่มวันละมากกว่า5 ดื่มมาตรฐาน ซึ่งเทียบได้กับเบียร์ 4 กระป๋องหรือ 2 ขวดใหญ่, เหล้าแดงครึ่งแบน เมื่อหยุดดื่มอย่างกะทันหันจะทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทันมักจะพบอาการมือสั่น เหงื่อออก เป็นไข้ สับสน กระวนกระวาย นอนไม่หลับ เห็นภาพหลอน หวาดระแวงคิดว่าจะมีใครมาทำร้ายอาจทำร้ายตัวเองหรือทำร้ายผู้อื่น ชักเกร็ง และอาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
แนะผู้ดื่มและครอบครัวสังเกตอาการของตนเองและคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดที่หยุดดื่มกะทันหันหากพบมีอาการเสี่ยงให้รีบพาไปพบแพทย์เพื่อขอรับคำปรึกษาหรือเข้ารับการบำบัดรักษาซึ่งการบำบัดรักษามี 2 รูปแบบ คือ การบำบัดรักษาแบบผู้ป่วยนอกเหมาะสำหรับผู้ติดแบบไม่รุนแรงมาก สามารถดูแลการทานยาเพื่อลดอาการถอนและควบคุมการหยุดดื่มได้ไม่มีภาวะแทรกซ้อนทางกาย และการบำบัดแบบผู้ป่วยในเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถควบคุมการดื่มได้ หรือมีภาวะแทรกซ้อนทางกาย โดยแพทย์จะบำบัดรักษาอาการถอนพิษสุราและภาวะแทรกซ้อนจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพเพื่อฟื้นฟูกระบวนการคิดสมรรถภาพร่างกายและจิตใจควบคู่กันไป หากประสบปัญหาเกี่ยวกับสุรา หรือยาและสารเสพติด สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนยาเสพติด 1165 หรือที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีกรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น อุดรธานี สงขลาและปัตตานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmindat.go.th