ผู้ประท้วงชาวฮินดูถือขวานและท่อนเหล็กเดินขบวนไปทั่วเมือง และปะทะกับชาวมุสลิมที่คัดค้านกฎหมายพลเมืองฉบับใหม่ ซึ่งผ่านมติของรัฐสภาเมื่อเดือนธันวาคม กฎหมายกำหนดให้สัญชาติแก่ชนกลุ่มน้อยศาสนาอื่นจาก 3 ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยกเว้นชาวมุสลิม เหตุรุนแรงล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เยือนอินเดียเป็นวันสุดท้าย
ตำรวจอินเดียเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตในเหตุปะทะอย่างรุนแรงเกี่ยวกับกฎหมายพลเมืองในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 19 คนแล้ว ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 150 รายในเหตุปะทะระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและผู้ต่อต้านกฎหมายพลเมืองฉบับปรับปรุง (CAA) ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงนิวเดลีวันที่24 ก.พ.
นาย อามิต ชาห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอินเดีย ได้ประชุมกับนายอาร์วินด์ เคจริวัล มุขมนตรีของกรุงนิวเดลี ร้อยโทอนิล ไบจัล รองผู้ว่าประจำกรุงนิวเดลี และตัวแทนนักจากเมืองจากแต่ละพรรค เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวและการจัดหาแนวทางเพื่อความปลอดภัย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เหตุปะทะเริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์และต่อเนื่องมาจนถึงวันจันทร์ โดยมีการจุดไฟเผาร้านค้าและรถยนต์หลายคัน รวมถึงมีการจุดไฟเผาตลาดยางช่วงกลางดึกที่เขตโกคุลปุรี สำหรับกฎหมายสัญชาติพลเมืองอินเดีย หรือ CAA ที่มีการปรับปรุงใหม่เมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา และเป็นสาเหตุของการเดินขบวนประท้วงในครั้งนี้ ทางรัฐบาลอินเดียระบุว่าเป็นกฏหมายที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขเพื่อแสดงให้เห็นว่า อินเดียเป็นสถานที่ปลอดภัย และเป็นการเปิดโอกาสให้แก่ชนกลุ่มน้อยหรือผู้ลี้ภัยที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมในประเทศเพื่อนบ้านของอินเดีย เช่น บังกลาเทศ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน สามารถพิสูจน์ความเป็นมาของสัญชาติอินเดียได้ใหม่ เพื่อให้ได้รับสัญชาติอินเดีย กฎหมายฉบับเก่ามีใช้มา 64 ปีแล้ว ส่วนฉบับแก้ไขเมื่อปลายปีที่ผ่านมาและมีผลบังคับใช้แล้วนี้ มีเนื้อหาเพิ่มเติมระบุว่า บุคคลใดๆสามารถที่จะอยู่ในอินเดียหรือทำงานให้รัฐบาลแห่งรัฐได้อย่างน้อย 11 ปี ก่อนที่จะยื่นเรื่องขอเป็นพลเมืองอินเดีย ยกเว้นชนกลุ่มน้อย 6 กลุ่ม คือ ฮินดู ซิกข์ พุทธ เชน ปาร์ซี และคริสต์ ถ้าหากสามารถพิสูจน์ได้ว่า มาจากประเทศเพื่อนบ้านของอินเดีย สามารถยื่นเรื่องขอเป็นพลเมืองได้ แม้ว่าจะอาศัยหรือทำงานอยู่ในอินเดียเพียงแค่ 6 ปี แต่ทั้งนี้จะต้องพิสูจน์สัญชาติให้ได้
กฎหมายฉบับแก้ไขดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับชาวมุสลิมในอินเดีย ที่มองว่า ชนกลุ่มน้อย 6 กลุ่มที่กฎหมายระบุถึง ไม่มีชาวมุสลิม รวมอยู่ด้วย จึงดูเป็นการเลือกปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในอินเดีย มีเป้าหมายต้องการครอบงำและลดความสำคัญของศาสนาอิสลามในอินเดีย ขณะที่นางโซเนีย คานธี ผู้นำฝ่ายค้านของอินเดีย กล่าวว่า รัฐบาลกำลังสร้างบรรยากาศความตึงเครียดทางศาสนาขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการเมือง แต่ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียยืนยันว่า กฎหมายไม่ได้มีเจตนาที่จะลำเอียง แต่เหตุที่ไม่ได้รวมชาวมุสลิมไว้ด้วย เพราะถือว่ามุสลิมไม่ได้เป็นชนกลุ่มน้อยในอินเดียเท่านั้นเอง