
แนวทางการดำเนินคดีอีกรอบกับ "สมคิด พุ่มพวง" เจ้าของฉายา "คิด เดอะริปเปอร์" ฆาตรกรต่อเนื่องที่ก่อคดีสะเทือนขวัญ ลงมือปลิดชีพด้วยวิธีการซ้ำๆ คือฆ่ารัดคอผู้หญิงมาแล้วถง 6 คน แม้เขาจะถูกจับกุมใน 5 คดีแรก จนต้องเข้าไปรับกรรมในเรือนจำแล้วด้วยโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต แต่กลับติดคุกจริงเพียง 14 ปีก็ออกมาก่อคดีที่ 6 จนสังคมวิจารณ์ถึงหลักเกณฑ์การลดโทษอย่างกว้างขวาง จนอัยการต้องออกมาให้ความมั่นใจว่าจะนำสืบต่อศาลอย่างไร เพื่อไม่ให้ลดโทษกับฆาตกรรายนี้อีก
นอกจากนั้นก็ต้องรอการปรับหลักเกณฑ์การลดโทษหลังมีคำพิพากษาในส่วนของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งมีข่าวว่าจะรื้อระบบกันขนานใหญ่ และนำรูปแบบการแยกกลุ่มนักโทษมาใช้ เพื่อไม่ให้่มีการลดโทษให้นักโทษในกลุ่มที่มีพฤติการณ์โหดร้ายทารุณ หรือพวกข่มขืนแล้วฆ่า
แต่อีกประเด็นหนึ่งที่หลายฝ่ายยังคาใจ ก็คือภาวะทางจิตของ "คิด เดอะริปเปอร์" เพราะเขาไม่ได้มีพฤติกรรมธรรมอย่างแน่นอน ที่สำคัญการถูกจับรอบนี้ หากเจ้าตัวอ้างว่าเป็นผู้ป่วยทางจิต จะส่งผลต่อคดีความในชั้นศาลหรือไม่ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ บอกกับ "ล่าความจริง" ว่า สิ่งแรกที่ควรทำคือ ให้แยกประเภทการป่วยของผู้ก่อเหตุก่อนว่า เขาป่วยเป็นอะไรกันแน่ ไม่ควรไปเหมารวมด้วยคำว่าเป็น "ผู้ป่วยโรคจิต" เพราะในทางการแพทย์มีขั้นตอนการตรวจสอบอย่างละเอียด และอาการป่วยบางอย่างก็ไม่ได้เข้าเกณฑ์การถูกละเว้นโทษ
ส่วนข้อมูลจากตำรวจที่เคยร่วมจับกุมและสอบสวน "คิด เดอะริปเปอร์" ที่อ้างคำให้การของฆาตกรว่า สาเหตุที่ต้องฆ่า เพราะเวลาผู้หญิงจะขาดใจ สามารถกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของเขาให้ไปถึงจุดสุดยอดได้นั้น
ประเด็นนี้ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ บอกว่า จริงๆ แล้วในทางการแพทย์ไม่สามารถนำคำกล่าวอ้างของใครมาใช้ในการประเมินผู้ป่วยได้ ฉะนั้นจะต้องมีการตรวจสอบอาการของผู้ป่วยอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเข้าข่ายเป็นโรค "กามวิปริต" หรือไม่ ซึ่งสามารถแยกได้หลายประเภท เช่น การมีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะ การใช้ความรุนแรงในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ จากข้อมูลทางการแพทย์ เมื่อขยายผลไปตรวจสอบข้อมูลบนโลกออนไลน์ พบว่ามีกลุ่มคนในโลกโซเชียลฯจำนวนไม่น้อยที่ตั้งกลุ่มขึ้นมาเป็นแหล่งรวมของผู้มีรสนิยมทางเพศแบบ "บีดีเอสเอ็ม" (BDSM) ในเพจเหล่านี้มีงานแสดงศิลปะ การซื้อขายแลกเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้ในการร่วมทำกิจกรรมทางเพศแบบวิตถาร รวมถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศแบบวิปริตนี้ด้วย "บีดีเอสเอ็ม" มาจากตัวย่อของอักษรภาษาอังกฤษ 4 ตัว คือ B : Bondage หมายถึง พันธนาการ / D : Discipline คือ การลงโทษ / S : Sadism คือ มีความสุขจากการทำร้ายผู้อื่น และ M : Masochism คือ มีความสุขจากการถูกผู้อื่นทำทารุณกรรม
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุรุนแรงทางเพศจนถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนหนึ่งมาจากผู้ป่วยไม่รู้ตัวเองว่าป่วย ฉะนั้นการสร้างความเข้าใจ และจัดทำแบบประเมินสุขภาพกับผู้ต้องขังในเรือนจำ น่าจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการคัดกรองแบ่งกลุ่มนักโทษ และพิจารณาเรื่องการลดโทษ การบำบัด และการปล่อยตัวให้กลับคืนสู่สังคม